อัตราเงินเฟ้อของอาร์เจนตินาชะลอตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันเมื่อเทียบเป็นรายเดือน เนื่องจากผลกระทบจากการลดค่าเงินเปโซเมื่อเดือนธ.ค. 2566 เริ่มแผ่วลงแล้ว ขณะที่มาตรการรัดเข็มขัดของประธานาธิบดีฆาบิเอร์ มิลเลอิ ผู้นำของอาร์เจนตินา ส่งผลให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาผู้บริโภคของอาร์เจนตินาเพิ่มขึ้น 13.2% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 15% อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบเป็นรายปีแล้ว ราคาผู้บริโภคของอาร์เจนตินายังพุ่งสูงขึ้น 276.2% ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่อาร์เจนตินาออกจากภาวะเงินเฟ้อรุนแรงในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1990
นายซานติอาโก บอซิลี ประธานธนาคารกลางอาร์เจนตินา (CBA) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อวันจันทร์ (11 มี.ค.) โดยลดอัตราดอกเบี้ยจาก 100% เหลือ 80% ซึ่งเหนือความคาดหมายของนักวิเคราะห์ เนื่องจากเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของธนาคารกลางอาร์เจนตินามองว่าเงินเฟ้อรายเดือนเริ่มชะลอตัวลง ขณะเดียวกันเงินเปโซอาร์เจนตินาก็แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในตลาดคู่ขนาน
แม้เงินเฟ้อรายปีของอาร์เจนตินาจะสูงกว่า 250% แต่เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางอาร์เจนตินาได้อ้างอิงถึงปัจจัยต่าง ๆ ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เช่น การพลิกฟื้นทุนสำรองระหว่างประเทศของธนาคารกลางอาร์เจนตินา โดยนับตั้งแต่ประธานาธิบดีฆาบิเอร์ มิลเลอิ แห่งอาร์เจนตินา เข้าพิธีสาบานตนเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ประธานธนาคารกลางอาร์เจนตินาได้ซื้อเงินเปโซในตลาดเงินตราของอาร์เจนตินาแล้วถึง 9.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อฟื้นฟูสถานะในคลังสำรองเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับค่าเงินเปโซ
เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายเปิดเผยว่า ตัวเลขเงินเฟ้อแสดงให้เห็นว่าผลกระทบของการแทรกแซงค่าเงินในเดือนธ.ค.ไม่ได้รุนแรงเท่ากับที่คาดการณ์ไว้
นายลูอิส คาปูโต รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจอาร์เจนตินา คาดการณ์เมื่อวานนี้ (12 มี.ค.) ว่า อัตราเงินเฟ้อรายเดือนจะลดลงต่ำกว่า 10% ภายในกลางปี 2567
ทั้งนี้ เมื่อเดือนธ.ค. รัฐบาลของประธานาธิบดีฆาบิเอร์ มิลเลอิ ได้ออกชุดมาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจครั้งใหญ่ โดยมาตรการหลักคือประกาศลดค่าเงินเปโซไป 54% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้รายได้ของชาวอาร์เจนตินาทรุดฮวบทันทีจากราคาสินค้าที่พุ่งพรวด
มาตรการอื่น ๆ ได้แก่ การตัดเงินอุดหนุนด้านพลังงานและการขนส่ง พร้อมขึ้นภาษีเพื่อหวังให้การคลังเป็นแบบสมดุล
นายฆาบิเอร์ มิลเลอิ เข้ารับตำแหน่งปธน.โดยให้สัญญาว่าจะเปลี่ยนประเทศให้หันมาใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ แก้ปัญหาเงินเฟ้อที่สูงทะลุ 200% ต่อปี ขจัดการขาดดุลทางการคลัง และหยุดเอื้อประโยชน์ให้กับนักการเมืองตระกูลใหญ่ ๆ ที่ปธน.มิลเลอิเรียกว่าเป็น "พวกอภิสิทธิ์ชน"