สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ของรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยผ่านรายงานแนวโน้มพลังงานระยะสั้น (STEO) ว่า การบริโภคพลังงานของสหรัฐอาจพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2567 และ 2568
EIA คาดการณ์ว่า ดีมานด์พลังงานจะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 4.099 ล้านล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ในปี 2567 และ 4.128 ล้านล้าน kWh ในปี 2568 เมื่อเทียบกับระดับ 4.000 ล้านล้าน kWh ในปี 2566 และระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.003 ล้านล้าน kWh ในปี 2561
EIA คาดการณ์ว่า ในขณะที่ที่อยู่อาศัยและธุรกิจต่าง ๆ หันมาพึ่งพาพลังงานไฟฟ้ามากขึ้นในการให้ความอบอุ่นและการขนส่งแทนที่จะเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิล ยอดขายพลังงานไฟฟ้าในปี 2567 จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.511 ล้านล้าน kWh สำหรับลูกค้ากลุ่มที่อยู่อาศัย, 1.396 ล้านล้าน kWh สำหรับลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการ และ 1.042 ล้านล้าน kWh สำหรับลูกค้าภาคอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวเทียบเท่ากับระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.509 ล้านล้าน kWh สำหรับลูกค้ากลุ่มที่อยู่อาศัย, ระดับ 1.391 ล้านล้าน kWh สำหรับลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการในปี 2565 และระดับ 1.064 ล้านล้าน kWh สำหรับลูกค้าภาคอุตสาหกรรมในปี 2543
EIA คาดการณ์ว่า ในปี 2567 ยอดขายก๊าซธรรมชาติจะเพิ่มขึ้นแตะ 1.241 หมื่นล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันสำหรับลูกค้ากลุ่มที่อยู่อาศัย, 9.17 พันล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันสำหรับลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการ และ 3.598 หมื่นล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันสำหรับการผลิตพลังงาน แต่ยอดขายสำหรับลูกค้าภาคอุตสาหกรรมลดลงสู่ระดับ 2.319 หมื่นล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เทียบกับระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.432 หมื่นล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันในปี 2539 สำหรับลูกค้ากลุ่มที่อยู่อาศัย, 9.63 พันล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันในปี 2561 สำหรับลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการ, ระดับ 2.380 หมื่นล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันในปี 2516 สำหรับลูกค้าภาคอุตสาหกรรม และ 3.543 หมื่นล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันในปี 2566 สำหรับการผลิตพลังงาน