สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ (18 มี.ค.) ว่า ตลาดที่อยู่อาศัยที่เปราะบางของจีนเปิดศักราชใหม่ด้วยยอดการลงทุนและยอดขายอสังหาริมทรัพย์ที่ปรับลดลงในอัตราชะลอตัวลง โดยได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลจีนพยายามยับยั้งภาวะขาลงเรื้อรังในภาคดังกล่าว
รายงานระบุว่า การลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีนลดลง 9.0% ในเดือนม.ค.-ก.พ.ของปี 2567 เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากลดลง 24.0% ในเดือนธ.ค. 2566
ยอดขายที่อยู่อาศัยเมื่อคิดตามพื้นที่ชั้นปรับตัวลดลง 20.5% ในเดือนม.ค.-ก.พ.จากปีก่อนหน้า เทียบกับการปรับลดลง 23.0% ในเดือนธ.ค.ปีที่ผ่านมา
การเริ่มก่อสร้างใหม่โดยวัดตามพื้นที่ชั้นลดลง 29.7% ในเดือนม.ค.-ก.พ. เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังลดลง 11.56% ในเดือนธ.ค. 2566
สำหรับการระดมทุนของกลุ่มนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จีนลดลง 24.1% ในเดือนม.ค.-ก.พ. เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากลดลง 17.8% ในเดือนธ.ค.ปีที่ผ่านมา
สำนักข่าวรอยเตอร์คำนวณโดยอิงตามข้อมูลจากธนาคารกลางจีน (PBOC) พบว่า หนี้สินภาคครัวเรือน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้กู้ซื้อบ้าน ลดลง 5.907 แสนล้านหยวน (8.208 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนก.พ. หลังปรับขึ้น 9.801 แสนล้านหยวนในเดือนม.ค.
ตัวเลขอสังหาริมทรัพย์อย่างเป็นทางการที่เผยแพร่ในสัปดาห์ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์จีนเผชิญความยากลำบากในการพลิกกลับมามีเสถียรภาพ โดยราคาบ้านในเดือนก.พ.ลดลง 0.3% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งสอดคล้องกับการปรับลดลงในเดือนม.ค.
ในช่วงที่ผ่านมาจีนได้ยกระดับการออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อพลิกฟื้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เปราะบาง หลังจากทางการจีนดำเนินการกวาดล้างด้วยการออกกฎระเบียบที่เข้มงวดต่อการกู้ยืมเงินมาลงทุนในกลุ่มนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จนนำไปสู่วิกฤตสภาพคล่องในภาคอสังหาริมทรัพย์