รัฐบาลฮ่องกงเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธ (3 เม.ย.) ว่า ยอดค้าปลีกของฮ่องกงปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 15 ในเดือนก.พ. โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องในภาคการท่องเที่ยวและการบริโภค
รายงานระบุว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.พ.ปรับตัวขึ้น 1.9% จากปีก่อนหน้า สู่ระดับ 3.38 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง (4.32 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เทียบกับการปรับตัวขึ้น 0.9% ในเดือนม.ค., การปรับตัวขึ้น 7.8% ในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว และการปรับขึ้น 15.9% ในเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว
"การท่องเที่ยวจากต่างประเทศมีแนวโน้มจะฟื้นตัวขึ้นอีก เนื่องจากขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวฟื้นตัวขึ้นแบบต่อเนื่อง และฮ่องกงมีการจัดกิจกรรมขนาดใหญ่เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งจะสร้างประโยชน์ให้กับภาคค้าปลีก" โฆษกรัฐบาลฮ่องกงระบุ
โฆษกรัฐบาลฮ่องกงกล่าวเสริมว่า แผนริเริ่มต่าง ๆ ของรัฐบาลฮ่องกงในการกระตุ้นความเชื่อมั่นด้านการบริโภคจะเป็นอีกปัจจัยหนุนภาคค้าปลีก
ในแง่ปริมาณ ยอดค้าปลีกปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนก.พ. เทียบกับการลดลง 1.2% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการลดลงในแง่ปริมาณครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2565 ซึ่งลดลง 0.6% ขณะที่เพิ่มขึ้น 4.8% ในเดือนธ.ค. 2566 และปรับตัวขึ้น 12.4% ในเดือนพ.ย.
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เศรษฐกิจฮ่องกงมีแนวโน้มขยายตัว 2.5-3.5% ในปีนี้ หลังขยายตัว 3.2% ในปี 2566 ในขณะที่ฮ่องกงพยายามดิ้นรนเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจหลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่ต่อสู้กับปัญหาขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มสูงขึ้นและอุปสรรคทางเศรษฐกิจต่าง ๆ