สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ (11 เม.ย.) ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าอาจเพิ่มขึ้น 0.4% หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 0.7% ในเดือนก.พ.
เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ดัชนี CPI เดือนมี.ค.ของจีนลดลง 1% หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 1% ในเดือนก.พ. โดยดัชนี CPI เดือนมี.ค.ปรับตัวลงมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าอาจลดลง 0.5%
ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ลดลง 2.8% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากที่ปรับตัวลง 2.7% ในเดือนก.พ. โดยดัชนี PPI เดือนมี.ค.สอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าอาจลดลง 2.8%
ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าจีนมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะเงินฝืด ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจจีนยังคงซบเซาเนื่องจากตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี
เมื่อวานนี้ (10 เม.ย.) ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของจีนลงสู่ "เชิงลบ" จาก "มีเสถียรภาพ" โดยระบุถึงความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจีนอาจจะเผชิญปัญหาหนี้สินเพิ่มขึ้นและเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลง
นอกจากนี้ ฟิทช์ระบุว่าภาวะเงินฝืดถือเป็นความเสี่ยงใหญ่ที่จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีน