ราคานำเข้าของสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนมี.ค. 2567 ท่ามกลางการเพิ่มขึ้นของต้นทุนผลิตภัณฑ์พลังงานและอาหาร แต่แรงกดดันเงินเฟ้อพื้นฐานจากการนำเข้าโดยรวมยังคงอ่อนตัว
สำนักงานสถิติแรงงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (12 เม.ย.) ว่า ราคานำเข้าเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมี.ค. หลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแบบยังไม่ผ่านการปรับค่าที่ 0.3% ในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ในผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่าราคานำเข้า ซึ่งไม่รวมภาษี จะเพิ่มขึ้น 0.3%
ในช่วง 12 เดือนจนถึงเดือนมี.ค. ราคานำเข้าดีดตัวขึ้น 0.4% นับเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกเมื่อเทียบเป็นรายปีนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2566 และพลิกกลับจากที่ลดลง 0.9% ในเดือนก.พ.
ราคานำเข้าเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น 4.7% ในเดือนมี.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.3% ในเดือนก.พ. โดยราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น 6.0% แต่ราคาก๊าซธรรมชาติร่วงลง 31.9% ขณะที่ต้นทุนอาหารนำเข้าพุ่งขึ้น 1.6% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก่อนหน้า
ราคานำเข้าพื้นฐาน (Core import price) ซึ่งไม่รวมเชื้อเพลิงและอาหาร ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และลดลง 0.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี
"แรงกดดันเงินเฟ้ออาจไม่ได้พุ่งสูงขึ้นจนควบคุมไม่ได้" คริสโตเฟอร์ รัปกีย์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ FWDBONDS ในนิวยอร์กกล่าว
รายงานยังแสดงให้เห็นว่าราคาส่งออกเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนก.พ. ราคาส่งออกสินค้าเกษตรลดลง 0.7% เนื่องจากราคาถั่วเหลือง ข้าวโพด และข้าวสาลีปรับตัวลดลงในเดือนมี.ค. ขณะที่ราคาเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้น ส่วนราคาส่งออกสินค้าที่ไม่ใช่สินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น 0.4%
เมื่อเทียบเป็นรายปี ราคาส่งออกลดลง 1.4% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการลดลงที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2566 หลังจากลดลง 2.0% ในเดือนก.พ.