สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ยุโรป (ACEA) รายงานในวันนี้ (18 เม.ย.) ว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ในสหภาพยุโรป (EU) ลดลง 5.2% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในปีนี้ และลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2565 โดยเป็นผลมาจากวันหยุดเทศกาลอีสเตอร์ที่มาถึงเร็วในปีนี้ ตลอดจนภาวะตลาดถดถอย
ก่อนหน้านี้ โฟล์คสวาเก้นและสเตลแลนทิส สองผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของยุโรป ระบุว่า ตลาดรถยนต์จะเผชิญอุปสรรคในปี 2567 อันเป็นผลมาจากความต้องการรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ลดลงทั่วโลก การแข่งขันกับค่ายรถจีนดุเดือดขึ้น แรงกดดันด้านต้นทุนที่ยังคงอยู่ และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์
ACEA ระบุว่า เมื่อเทียบเป็นรายปี ยอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ในเดือนมี.ค. ปรับตัวลดลง 6.2% ในเยอรมนี, 4.7% ในสเปน, 3.7% ในอิตาลี และ 1.5% ในฝรั่งเศส
นอกจากนี้ ACEA ระบุว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ลดลง 11.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี สะท้อนถึงภาวะตลาดถดถอยในวงกว้าง ส่วนยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดเพิ่มขึ้น 12.6% โดยได้แรงหนุนจากยอดขายที่แข็งแกร่งในฝรั่งเศสและอิตาลี
ทั้งนี้ การเติบโตของยอดขายรถ EV ชะลอตัวลง ขณะที่การลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีกลับสูงเกินกว่าความต้องการของตลาด โดยผู้บริโภคจำนวนมากตัดสินใจไม่ซื้อด้วยเหตุผลเรื่องราคาและข้อกังขาเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานในการชาร์จรถ EV
ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดที่ใช้ทั้งน้ำมันและไฟฟ้านั้น มียอดขายเพิ่มขึ้นในสหภาพยุโรปในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 29% ในเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้นจาก 24.4% ในปีที่แล้ว
ในภาพรวมนั้น รถยนต์ไฟฟ้าที่ขายในสหภาพยุโรปไม่ว่าจะเป็นรุ่นไฟฟ้า 100% รุ่นปลั๊กอินไฮบริด หรือรุ่นไฮบริดเต็มรูปแบบ คิดเป็น 49.1% ของยอดจดทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลใหม่ทั้งหมดในเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้นจาก 45.5% ในปีก่อนหน้า
ยอดจดทะเบียนรถยนต์ของสามค่ายรถชั้นนำในยุโรป ได้แก่ โฟล์คสวาเก้น สเตลแลนทิส และเรโนลต์ ลดลง 9.0%, 12.6% และ 2.1% ตามลำดับในเดือนมี.ค.
ด้านเทสลาก็มียอดขายในสหภาพยุโรปร่วงลงมากเป็นประวัติการณ์ถึง 30.4% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่วนยอดขายของโตโยต้าในสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้น 18.4% ในเดือนมี.ค.
ACEA ระบุว่า จำนวนรถยนต์ใหม่ที่จดทะเบียนในเดือนมี.ค. ในสหภาพยุโรป อังกฤษ และสมาคมการค้าเสรียุโรป (EFTA) ลดลง 2.8% สู่ระดับ 1,383,410 คัน แต่หากนับเฉพาะอังกฤษ จำนวนรถยนต์ใหม่ที่จดทะเบียนเพิ่มขึ้น 10.4%