รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (19 เม.ย.) ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (core inflation) ของญี่ปุ่นชะลอตัวลงในเดือนมี.ค. เนื่องจากราคาอาหารเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่ระดับ 2%
ข้อมูลระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (core CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ไม่นับรวมราคาอาหารสด ปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากเพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนก.พ. ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้
ส่วนดัชนี Core-Core CPI ซึ่งไม่รวมราคาเชื้อเพลิงและราคาอาหารสด และเป็นดัชนีที่ BOJ กำลังจับตาดูอย่างใกล้ชิดในฐานะตัวชี้วัดสำคัญของแนวโน้มเงินเฟ้อในวงกว้างนั้น เพิ่มขึ้น 2.9% ในเดือนมี.ค.หลังจากเพิ่มขึ้น 3.2% ในเดือนก.พ. โดยถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2565 ที่ดัชนีดังกล่าวลดลงต่ำกว่า 3%
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นักลงทุนกำลังจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่า BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งเมื่อใด หลังจากที่ได้ประกาศยุตินโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบในการประชุมเดือนมี.ค. ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากการใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเป็นพิเศษที่ใช้มานานหลายสิบปี
BOJ ระบุว่า การบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% และรักษาการขยายตัวของค่าแรงที่แข็งแกร่งได้อย่างยั่งยืนนั้นเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการปรับนโยบายการเงินสู่ภาวะปกติ