สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (19 เม.ย.) ว่า ยอดค้าปลีกของอังกฤษชะงักงันในเดือนมี.ค. 2567 แม้อัตราเงินเฟ้อจะผ่อนคลายลงเมื่อเร็ว ๆ นี้ ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้วที่ยอดค้าปลีกไม่มีการเติบโต (0.0%) เมื่อเทียบเป็นรายเดือน
เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ในผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า ยอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.พ.
ONS ระบุว่า ยอดขายของร้านที่ไม่ใช่ร้านอาหารเพิ่มขึ้น และยอดขายเชื้อเพลิงยานยนต์ก็เพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2565 แต่ทั้งสองก็ถูกหักล้างด้วยยอดขายที่ลดลงในร้านขายอาหาร ร้านค้าปลีกออนไลน์ และร้านค้าปลีกอื่น ๆ ที่ไม่มีหน้าร้าน
หากไม่นับยอดขายเชื้อเพลิง ยอดค้าปลีกของอังกฤษลดลง 0.3% ในเดือนมี.ค.
"สิ่งที่ชัดเจนคือ ไตรมาสแรกของปีนี้ค่อนข้างน่าผิดหวังสำหรับร้านค้าปลีกหลายแห่ง" ลิซา ฮุกเกอร์ หัวหน้าฝ่ายอุตสาหกรรมตลาดผู้บริโภคของ PwC กล่าว "ภาวะเงินเฟ้อที่ลดลงและการลดภาษีประกันสังคม 2% เป็นครั้งแรก ซึ่งส่งผลต่อเงินเดือนในเดือนม.ค.นั้น กลับยังไม่สามารถทำให้การจับจ่ายใช้สอยกลับมาฟื้นตัวอย่างยั่งยืน"
ทั้งนี้ นายเจเรมี ฮันท์ รัฐมนตรีคลังของอังกฤษ ได้ประกาศลดภาษีประกันสังคมเป็นครั้งที่สองในเดือนเม.ย.นี้ หลังจากการลดครั้งแรกในเดือนม.ค. โดยหวังว่าจะทำให้พรรคอนุรักษนิยม ซึ่งเป็นฝ่ายรัฐบาลในปัจจุบัน มีโอกาสชนะการเลือกตั้งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้เพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ดี มีสัญญาณเชิงบวกอยู่บ้างในช่วงที่ผ่านมาจากบรรดาผู้ค้าปลีกชั้นนำในอังกฤษ โดยเทสโก้ (Tesco) เครือซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และเน็กซ์ (Next) เครือเสื้อผ้า ต่างชี้ให้เห็นว่าแนวโน้มของผู้บริโภคดีขึ้น และคาดการณ์ว่ากำไรจะเติบโตในปี 2567 ด้านคิงฟิชเชอร์ (Kingfisher) ร้านค้าปลีกสินค้าตกแต่งบ้าน ส่งสัญญาณเตือนเรื่องผลกำไรของบริษัท แต่ระบุว่าการดำเนินงานในอังกฤษทำได้ดีกว่าในฝรั่งเศส
เมื่อเทียบเป็นรายปี ข้อมูลจาก ONS ระบุว่า ยอดค้าปลีกในเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 0.8%
หากเทียบรายไตรมาส ยอดค้าปลีกของอังกฤษในไตรมาส 1/2567 (ม.ค.-มี.ค.) โตขึ้น 1.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า นับเป็นอัตราการเติบโตสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2564 โดยได้อานิสงส์จากเดือนม.ค.ที่ยอดขายโตแบบก้าวกระโดด
ทันทีหลังจากที่มีการเผยแพร่ยอดค้าปลีก เงินปอนด์ก็อ่อนค่าลงในช่วงสั้น ๆ เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและยูโร