นายฆาบิเอร์ มิเลย์ ประธานาธิบดีอาร์เจนตินา ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวแอลเอ็นพลัส (LN+) เมื่อวานนี้ (28 เม.ย.) ว่า เงินเฟ้อของอาร์เจนตินาในเดือนเม.ย. น่าจะขยายตัวไม่ถึง 10% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งเป็นสัญญาณว่านโยบายของรัฐบาลได้ผล
นายมิเลย์กล่าวว่า ค่าแรงเริ่มแซงหน้าอัตราเงินเฟ้อได้แล้ว แสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าในการต่อสู้กับปัญหาเงินเฟ้อ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เงินเฟ้ออาร์เจนตินาชะลอตัวลงเกินคาดในเดือนมี.ค. และชะลอตัวลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับเดือนก.พ. ซึ่งน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 12.1%
เมื่อเทียบเป็นรายปีแล้ว อัตราเงินเฟ้อของอาร์เจนตินาเพิ่มขึ้นถึง 287.9% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงเงินเฟ้อรุนแรงของอาร์เจนตินาในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1990
นายมิเลย์เสริมว่า ราคาอาหารและเครื่องดื่มได้ชะลอตัวลงในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และได้ชี้ให้เห็นด้วยว่า อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงลดลงจาก 133% เหลือ 60% นับตั้งแต่เขาเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งนายมิเลย์มองว่า ตัวชี้วัดเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของอาร์เจนตินากำลังดีขึ้น
ทั้งนี้ ธนาคารกลางอาร์เจนตินาได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 60% จาก 70% เมื่อวันพฤหัสบดี (25 เม.ย.) โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 4 แล้วนับตั้งแต่นายมิเลย์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอาร์เจนตินาในเดือนธ.ค. 2566
นอกจากนี้ นายมิเลย์ระบุว่า รัฐบาลจะเริ่มชำระหนี้ให้กับบริษัท CAMMESA ซึ่งเป็นผู้ค้าส่งพลังงานของรัฐตั้งแต่เดือนมิ.ย. เพราะอาร์เจนตินาเกินดุลทางการเงิน อีกทั้งรัฐบาลวางแผนที่จะชำระหนี้กับบริษัทผลิตก๊าซและผลิตไฟฟ้าโดยใช้พันธบัตรสกุลเงินเปโซ