ชาวเม็กซิกันในต่างประเทศส่งเงินกลับบ้านน้อยกว่าที่คาดไว้ในเดือนมี.ค. ซึ่งสร้างความท้าทายให้กับเศรษฐกิจเม็กซิโกที่ชะลอตัวอยู่แล้ว
ธนาคารกลางเม็กซิโก (Banxico) เปิดเผยข้อมูลเมื่อวานนี้ (2 พ.ค.) ว่า ยอดส่งเงินทั้งหมดลดลงเหลือ 5.02 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของบลูมเบิร์กได้คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 5.3 พันล้านดอลลาร์
เมื่อคำนวณเป็นสกุลเงินท้องถิ่นแล้ว การลดลงดังกล่าวยิ่งเห็นชัดมากขึ้น เนื่องจากเงินเปโซของเม็กซิโกแข็งค่าเพิ่มขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่น ๆ ทั่วโลกในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา โดยแข็งค่าขึ้นถึง 6.2%
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เม็กซิโกได้รับประโยชน์จากการส่งเงินกลับที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งและบริษัทต่าง ๆ ย้ายโรงงานของตนไปใกล้กับสหรัฐมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจของเม็กซิโกขยายตัวเพียง 0.2% ในไตรมาส 1/2567 เนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงที่สูงทำให้อุปสงค์ลดลง
นายอัลเบร์โต้ รามอส ผู้อำนวยการโกลด์แมน แซคส์ ประจำภูมิภาคลาตินอเมริกา กล่าวว่า "การแข็งค่าขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของเงินเปโซกำลังลดผลกระทบเชิงบวกที่การส่งเงินกลับมีต่อการใช้จ่ายในประเทศ"
เมื่อปรับตามค่าเงินเปโซที่แข็งค่าเพิ่มขึ้นแล้ว นายรามอสได้ประมาณการว่า ยอดส่งเงินในรูปสกุลเงินเปโซลดลง 11.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี