สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานในวันนี้ว่า ยอดส่งออกของจีนกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในเดือนเม.ย. หลังจากที่หดตัวลงอย่างรุนแรงในเดือนมี.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าอุปสงค์สินค้าจีนในต่างประเทศเริ่มปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ ยอดส่งออกในเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 1.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสอดคล้องกับที่นักเศรษฐศาสตร์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ ส่วนในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ยอดส่งออกของจีนร่วงลง 7.5% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2566
ยอดนำเข้าในเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 8.4% ซึ่งสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าอาจจะเพิ่มขึ้น 4.8% โดยจีนมียอดเกินดุลการค้าในเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้นแตะระดับ 7.235 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนมี.ค.ที่ระดับ 5.855 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 7.750 หมื่นล้านดอลลาร์
ข้อมูลของ GAC ระบุว่า จีนนำเข้าสินค้าจากสหรัฐเพิ่มขึ้น 9% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี และส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐลดลงเกือบ 3% โดยสหรัฐยังคงเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีน
ขณะที่กลุ่มอาเซียนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีนในภูมิภาคเอเชีย โดยจีนส่งออกสินค้าไปยังอาเซียนเพิ่มขึ้น 8% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ยอดนำเข้าจากอาเซียนเพิ่มขึ้น 5%
ส่วนยอดส่งออกจากจีนไปยังสหภาพยุโรป (EU) ลดลงราว 3.5% ขณะที่ยอดนำเข้าจาก EU เพิ่มขึ้นเกือบ 2.5%