แบงก์ ออฟ อเมริกา (BofA) ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐเปิดเผยคาดการณ์ว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยเฉลี่ยของเกาหลีใต้จะลดลงต่ำกว่าระดับ 2% ในช่วงทศวรรษปี 2573 จากปัญหาประชากรสูงอายุที่บั่นทอนความคืบหน้าของประเทศและทำให้อุปสรรคทางเศรษฐกิจรุนแรงขึ้น
เกาหลีใต้มีอัตราการเกิดต่ำที่สุดในโลก และปัญหาดังกล่าวกำลังบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความเสื่อมถอยของพลวัตทางเศรษฐกิจ สุขภาพการคลัง นวัตกรรม และเสถียรภาพทางการเงิน โดยนายเบนสัน วู นักเศรษฐศาสตร์ของ BofA ระบุในรายงานในวันนี้ (31 พ.ค.) ว่า จำนวนประชากรของเกาหลีใต้กำลัง "ดิ่งฮวบ" และอาจส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจลดลงเหลือ 1.8% ในช่วงปี 2573-2582 และ 1.1% ในช่วงปี 2583-2592
มุมมองที่ซบเซาของนายวูได้รับการเปิดเผยออกมา ในขณะที่ประธานาธิบดียุน ซุกยอล ผู้นำเกาหลีใต้กระตุ้นเตือนเกี่ยวกับอัตราการเจริญพันธุ์ที่ลดลงสู่ระดับต่ำสุดใหม่ที่ 0.72 เมื่อปีที่แล้ว โดยปธน.ยุนวางแผนที่จะจัดตั้งกระทรวงใหม่ที่มุ่งเน้นไปที่การจัดการกับวิกฤติประชากร
รายงานของนายวูเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะยาวนั้นสวนทางกับมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจเมื่อไม่นานมานี้ที่มีการปรับตัวขึ้นในปีนี้ เนื่องจากการส่งออกฟื้นตัวจากความต้องการผลิตภัณฑ์ของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี อาทิ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ (Samsung Electronics)
นายวูระบุว่า สัดส่วนของประชากรวัยทำงานในเกาหลีใต้ที่คาดการณ์ว่าจะลดลงเหลือ 52% ในปี 2593 จากปัจจุบันที่มี 72% จะทำให้บรรดาผู้ผลิตชิป ผู้ผลิตรถยนต์ และบริษัทอื่น ๆ รู้สึกได้ถึงแรงกดดันในการย้ายการผลิตไปยังต่างประเทศ ซึ่งเป็นแนวโน้มเชิงโครงสร้างที่เริ่มชัดเจนแล้ว และเสริมว่า ความต้องการสกุลเงินวอนอาจลดลง และมีความเสี่ยงที่เงินจะทุนไหลออกนอกประเทศมากขึ้น
รายงานระบุว่า รัฐบาลควรพยายามสนับสนุนการลงทุนด้านการวิจัยที่ช่วยเพิ่มผลผลิต ทำให้ตลาดแรงงานมีความยืดหยุ่นมากขึ้น และส่งเสริมการย้ายถิ่นฐานมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อชดเชยผลกระทบจากจำนวนประชากรที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจ