ผลสำรวจที่เผยแพร่ในวันนี้ (5 มิ.ย.) ระบุว่า กิจกรรมในภาคบริการของเยอรมนีขยายตัวในอัตราที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบปีในเดือนพ.ค. โดยได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้นและอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัว
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของเยอรมนี จากฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (HCOB) ที่รวบรวมโดยเอสแอนด์พี โกลบอล อยู่ที่ระดับ 54.2 ในเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 53.2 ในเดือนเม.ย. และสูงกว่าตัวเลข PMI ภาคบริการขั้นต้นเล็กน้อยที่ 53.9 นอกจากนี้ ยังอยู่เหนือระดับ 50 เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันอีกด้วย
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ขณะเดียวกัน ดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นสุดท้ายอยู่ที่ระดับ 52.4 ในเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 50.6 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบปีและสูงกว่าระดับ 50 เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ธุรกิจใหม่เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ขณะที่ความเชื่อมั่นของบริษัทต่าง ๆ ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในปีหน้าพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2565 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในระยะยาวอย่างมีนัยสำคัญ
นายไซรัส เดอ ลา รูเบีย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก HCOB กล่าวว่า "บรรยากาศในภาคบริการของเยอรมนีกำลังดีขึ้นเดือนแล้วเดือนเล่า มีความหวังเพิ่มขึ้นว่าเศรษฐกิจเยอรมนีจะไม่ได้เป็นคนป่วยแห่งยุโรปอย่างที่เคยคิดกัน"
นอกจากนี้ การจ้างงานเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราต้นทุนปัจจัยการผลิตและราคาสินค้าและบริการชะลอตัวลงต่ำสุดในรอบ 3 ปี แม้จะยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตก็ตาม
"ด้านดี ๆ จากแนวโน้มนี้คือบริษัทในภาคบริการยังคงมีอำนาจในการกำหนดราคาอยู่บ้าง ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของภาคส่วนนี้" นายเดอ ลา รูเบีย กล่าว