กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารของญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (7 มิ.ย.) ว่า การใช้จ่ายของภาคครัวเรือนญี่ปุ่นในเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 14 เดือน แต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6%
ข้อมูลระบุว่า ครัวเรือนที่มีสมาชิกตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปใช้จ่ายโดยเฉลี่ย 313,300 เยน (ประมาณ 2,000 ดอลลาร์)
เมื่อเทียบเป็นรายเดือน การใช้จ่ายของภาคครัวเรือนญี่ปุ่นลดลง 1.2% ในเดือนเม.ย. ซึ่งตรงข้ามกับที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2%
ทั้งนี้ การใช้จ่ายของภาคครัวเรือนเป็นตัวบ่งชี้การอุปโภคบริโภคซึ่งมีสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของญี่ปุ่น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นมีความกังวลเกี่ยวกับการบริโภคภาคเอกชนที่ซบเซา โดยการบริโภคภาคเอกชนถือเป็นปัจจัยที่จำเป็นในการบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน และเป็นหนึ่งในข้อกำหนดสำหรับการปรับนโยบายการเงินให้เป็นปกติของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)
รายงานระบุว่า การใช้จ่ายด้านการศึกษาและเครื่องนุ่งห่มปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนเม.ย. แต่การใช้จ่ายด้านอาหาร และสาธารณูปโภคปรับตัวลดลง
การเปิดเผยข้อมูลการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนญี่ปุ่นมีขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่นายโทโยอากิ นากามูระ หนึ่งในกรรมการ BOJ ได้แสดงความเห็นว่า การบริโภคภายในประเทศซบเซาลงในช่วงนี้ และแสดงความกังวลว่าอัตราเงินเฟ้ออาจต่ำกว่าเป้าหมายที่ระดับ 2% ของ BOJ