การลงทุนจากบริษัทจีนในยุโรปหดตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปีเมื่อปีที่แล้ว โดยเงินทุนก้อนใหม่ส่วนใหญ่หลั่งไหลเข้าสู่อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และภาคส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
รายงานฉบับใหม่ของโรเดียม กรุ๊ป (Rhodium Group) และสถาบันเมอร์เคเตอร์เพื่อการศึกษาจีน (Mercator Institute for China Studies) ในเยอรมนีระบุว่า บริษัทต่าง ๆ ของจีนลงทุน 6.8 พันล้านยูโร (7.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ใน 27 ประเทศของสหภาพยุโรป (EU) และสหราชอาณาจักรในปี 2566 ซึ่งถือเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2553 โดยเกือบ 70% ของเม็ดเงินลงทุนก้อนใหม่หลั่งไหลเข้าสู่ภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้า เช่น แบตเตอรี่
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ภาคธุรกิจจีนลงทุนในยุโรปลดลง แต่ลงทุนเพิ่มในพื้นที่อื่น ๆ แทน โดยจีนมีการลงทุนในต่างประเทศทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งตอกย้ำให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ลงระหว่างยุโรปและจีน และมีแนวโน้มที่จะย่ำแย่ลงไปอีก เนื่องจาก EU เตรียมกำหนดภาษีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ส่งออกมาจากจีน ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่อาจกระตุ้นให้ทางการจีนออกมาตอบโต้
ฮังการีได้รับเม็ดเงินลงทุนก้อนใหม่จากจีน 3 พันล้านยูโรเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งคิดเป็น 44% ของเม็ดเงินลงทุนจากจีนในยุโรป โดยบริษัทที่ครองสัดส่วนการลงทุนมากที่สุดได้แก่ โรงงานผลิตแบตเตอรี่มูลค่า 8 พันล้านยูโรของบริษัทคอนเทมโพรารี แอมเพอเร็กซ์ เทคโนโลยี (Contemporary Amperex Technology) และโรงงานวัสดุแคโทดของบริษัท เจ้อเจียง หัวโหย่ว โคบอลต์ (Zhejiang Huayou Cobalt)