การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในอังกฤษซึ่งส่งผลให้มีฝนตกมากขึ้นและสภาพอากาศที่รุนแรง สร้างความปวดหัวให้กับบรรดานักเศรษฐศาสตร์ที่พยายามคาดการณ์ข้อมูลการค้าปลีกและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า อังกฤษได้ประสบกับฤดูใบไม้ผลิที่มีฝนตกบ่อยที่สุดนับตั้งแต่ปี 2529 รวมถึงหลายเดือนที่มีฝนตกมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2379 โดยผลการวิจัยเมื่อไม่นานมานี้พบว่า อุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นส่งผลให้พายุฝนในช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมาย่ำแย่ลง 20% สร้างความเสียหายแก่พืชผล ไฟฟ้าดับ และน้ำท่วมอาคารบ้านเรือนและธุรกิจราว 7,000 แห่ง
นายเอ็ดเวิร์ด อัลเลนบี นักเศรษฐศาสตร์อังกฤษจากอ็อกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิกส์ (Oxford Economics) ระบุว่า ฝนได้กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญทางเศรษฐกิจของอังกฤษเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยฝนที่ตกอย่างหนักมีส่วนทำให้เกิดภาวะถดถอยเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งหนึ่งในเดือนต.ค.ที่มีฝนตกหนักมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ได้บั่นทอนการก่อสร้าง การค้าปลีก สถานบันเทิง และการท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการค้าปลีกซึ่งบรรดานักชอปลังเลที่จะออกมาจับจ่ายใช้สอยเพราะฝนตกหนัก
ขณะเดียวกัน นางเทรา อัลลาส ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและเศรษฐศาสตร์ของแมคคินซีย์ (McKinsey) ในอังกฤษกล่าวว่า "สภาพอากาศที่อุ่นและชื้นกว่าปกติในช่วงเดือนก.พ.-เม.ย. ปีนี้ มีแนวโน้มว่าจะสร้างความผันผวนให้กับตัวเลขค้าปลีก"
ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าวจะได้รับความสนใจในการเปิดเผยข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เดือนเม.ย.ของสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) ในวันที่ 12 มิ.ย. และได้รับความสนใจอีกครั้งในการเปิดเผยตัวเลขค้าปลีกในวันที่ 21 มิ.ย. โดยนักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขดังกล่าวจะชะลอตัวเข้าใกล้จุดซบเซาของเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว หลังขยายตัวไป 0.4% ในเดือนมี.ค. และขยายตัว 0.6% ในไตรมาส 1/2567 ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษคาดว่า เศรษฐกิจในไตรมาส 2/2567 จะขยายตัวขึ้นเล็กน้อยที่ 0.2%