สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (17 มิ.ย.) ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของญี่ปุ่นลดลง 2.9% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งถือเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 3 เดือน แต่หดตัวน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ในโพลของรอยเตอร์คาดไว้ว่าจะลดลง 3.1%
ข้อมูลดังกล่าวได้รับการเปิดเผยหลังจากที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ตัดสินใจเริ่มลดการซื้อพันธบัตรรัฐบาลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และในเดือนหน้าจะมีการประกาศรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการลดขนาดงบดุลซึ่งมีมูลค่าเกือบ 5 ล้านล้านดอลลาร์
ส่วนเมื่อเทียบเป็นรายปี ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐาน ซึ่งมีความผันผวนสูงและถือเป็นตัวบ่งชี้การใช้จ่ายด้านการลงทุนในอีก 6-9 เดือนข้างหน้า ปรับเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนเม.ย.
เมื่อพิจารณาตามภาคส่วน ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานในภาคการผลิตลดลง 11.3% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ขณะที่ภาคส่วนอื่นที่ไม่ใช่ภาคการผลิตเพิ่มขึ้น 5.9%
สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นยังคงประเมินว่ายอดสั่งซื้อเครื่องจักรมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทญี่ปุ่นมักวางแผนใหญ่เพื่อเพิ่มการใช้จ่ายด้านโรงงานและอุปกรณ์ แต่บริษัทเหล่านี้มักจะดำเนินการอย่างเชื่องช้า เนื่องจากไม่แน่ใจเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินเยนก็ไม่ได้ช่วยให้การใช้จ่ายด้านการลงทุนในประเทศดีขึ้นมากนัก เนื่องจากบริษัทญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะลงทุนโดยตรงในต่างประเทศที่มีอุปสงค์แข็งแกร่งกว่า