สำนักงานการพัฒนาเมืองของสิงคโปร์ (Urban Redevelopment Authority - URA) เปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (18 มิ.ย.) บ่งชี้ว่า ยอดขายบ้านใหม่ของสิงคโปร์ลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน เนื่องจากอุปสงค์ลดลงและไม่มีการเปิดตัวโครงการขนาดใหญ่ ๆ ด้านอสังหาริมทรัพย์
ข้อมูลระบุว่า บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สามารถขายบ้านได้เพียง 221 ยูนิตในเดือนพ.ค. ลดลงจาก 301 ยูนิตในเดือนเม.ย. และลดลงอย่างมาก 79% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยคาดว่ายอดขายครึ่งปีแรกจะต่ำที่สุดในรอบกว่า 10 ปี
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า อัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงและมาตรการของรัฐบาลในการทำให้ตลาดลดความร้อนแรงลงนั้น ทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยที่เคยเฟื่องฟูของสิงคโปร์ชะลอตัวลง นอกจากนี้ สิงคโปร์คาดว่าจะมีบ้านใหม่เพิ่มขึ้นเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากรัฐบาลพยายามทำให้ราคาที่อยู่อาศัยอยู่ในระดับที่จับต้องได้มากขึ้น
นางคริสติน ซุน หัวหน้านักวิจัยและนักยุทธศาสตร์ของออเรนจ์ที กรุ๊ป (OrangeTee Group) ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์คาดว่า ยอดขายบ้านใหม่ในเดือนมิ.ย.ไม่น่าจะเพิ่มขึ้นมากนัก เนื่องจากครอบครัวต่าง ๆ มักจะเดินทางในช่วงปิดเทอมนาน 1 เดือน
ไนต์ แฟรงก์ ซึ่งเป็นบริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์คาดการณ์ว่า ยอดขายบ้านใหม่ในปีนี้จะมียอดขายน้อยกว่า 7,000 หลัง ลดลงจากประมาณการก่อนหน้านี้ที่สูงถึง 9,000 หลัง เว้นเสียแต่ว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลง หรือรัฐบาลผ่อนปรนมาตรการควบคุมตลาด