สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ยุโรป (ACEA) เปิดเผยข้อมูลว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) ใหม่ในสหภาพยุโรป (EU) ลดลง 12% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี นำโดยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในเยอรมนี ลดลง 30%
ACEA ระบุว่า ในเดือนธ.ค. 2566 เยอรมนีซึ่งเป็นตลาด EV ใหญ่ที่สุดใน EU ได้ยุติมาตรการอุดหนุนการซื้อ EV ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงในนาทีสุดท้ายในการบรรลุข้อตกลงงบประมาณสำหรับปี 2567 ส่งผลให้ยอดขาย EV ลดลง 16% แล้วในปีนี้
ยอดขายรถยนต์ใหม่โดยรวมใน EU ลดลง 3% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งถือเป็นการลดลงครั้งที่ 2 ในปีนี้ อีกทั้งยอดขายในภูมิภาคที่กว้างขึ้นซึ่งรวมถึง EU, อังกฤษ และสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) ลดลง 2.6% ด้วย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อุปสงค์ด้าน EV ในยุโรปลดลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หลังจากที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งมาหลายปี ขณะที่มีการแข่งขันเพิ่มขึ้นเพื่อผลิต EV รุ่นราคาประหยัดมากขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อปกป้องผู้ผลิตรถยนต์ในท้องถิ่นจากการนำเข้า EV ราคาประหยัดที่เพิ่มขึ้น คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จะกำหนดภาษีชั่วคราวสูงถึง 38.1% สำหรับการนำเข้า EV ที่ผลิตในจีน โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนก.ค.นี้เป็นต้นไป