ผลสำรวจภาคธุรกิจที่เผยแพร่ในวันนี้ (21 มิ.ย.) ระบุว่า กิจกรรมโรงงานของญี่ปุ่นขยายตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนมิ.ย. 2567 แต่การเติบโตชะลอตัวลง เนื่องจากคำสั่งซื้ออ่อนแอลงและแรงกดดันด้านต้นทุนทวีความรุนแรงขึ้น
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (PMI) ขั้นต้นของญี่ปุ่นจาก au Jibun Bank อยู่ที่ระดับ 50.1 ในเดือนมิ.ย. ลดลงเล็กน้อยจากระดับ 50.4 ในเดือนพ.ค.
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
พาน จิ้งอี๋ รองผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐศาสตร์ของ S&P Global Market Intelligence ซึ่งเป็นผู้รวบรวมแบบสำรวจฉบับนี้กล่าวว่า การขยายตัวของภาคเอกชนของญี่ปุ่นชะงักงันในช่วงกลางปี แต่ผลผลิตของผู้ผลิตภาคอุตสาหกรรมมีสัญญาณบวกในด้านการเติบโตอยู่บ้าง
ผลสำรวจระบุว่า ดัชนีย่อยของผลผลิตขยายตัวในเดือนมิ.ย.เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2566 อย่างไรก็ตาม ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ลดลงในเดือนมิ.ย.จากเดือนก่อนหน้า
พานกล่าวว่า แรงกดดันต่อกำไรของบริษัทญี่ปุ่นเป็นเรื่องที่น่ากังวล
แรงกดดันด้านราคากำลังทวีความรุนแรงขึ้นในภาคการผลิต เนื่องจากต้นทุนปัจจัยการผลิตและราคาขายโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นในอัตราที่เร่งตัวขึ้นในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
ผลสำรวจระบุว่า การมองโลกในแง่ดีของผู้ผลิตในอีก 12 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้น แม้ว่าคำสั่งซื้อใหม่จะชะลอตัวลง
ขณะเดียวกัน ดัชนี PMI ภาคบริการขั้นต้นของญี่ปุ่นจาก au Jibun Bank อยู่ที่ระดับ 49.8 ในเดือนมิ.ย. หดตัวจากระดับ 53.8 ในเดือนพ.ค. โดยดัชนีหดตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2565
ผู้ให้บริการของญี่ปุ่นชี้ว่า ผลผลิตลดลงเนื่องจากข้อจำกัดด้านแรงงาน แม้ว่าพวกเขาจะยังคงจ้างพนักงานเพิ่มขึ้นก็ตาม
อัตราเงินเฟ้อด้านต้นทุนปัจจัยการผลิตของภาคบริการก็เพิ่มขึ้นในเดือนมิ.ย.เช่นกัน แต่บริษัทต่าง ๆ ได้ปรับขึ้นราคาขายเฉลี่ยในอัตราที่ชะลอตัวที่สุดในรอบ 7 เดือนเพื่อหนุนยอดขาย
ทั้งนี้ ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและบริการขั้นต้น อยู่ที่ระดับ 50.0 ในเดือนมิ.ย. ลดลงจากระดับ 52.6 ในเดือนพ.ค.
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ตัดสินใจลดการซื้อพันธบัตรจำนวนมหาศาล และจะเปิดเผยแผนรายละเอียดในเดือนก.ค.นี้ ซึ่งถือเป็นอีกก้าวหนึ่งในการยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่