ผลสำรวจที่เผยแพร่ในวันนี้ (21 มิ.ย.) ระบุว่า ภาคบริการของฝรั่งเศสหดตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนมิ.ย. 2567 โดยได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ที่อ่อนแอ ขณะที่ฝรั่งเศสกำลังมุ่งหน้าสู่การเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา ซึ่งจะมีขึ้น 2 รอบในวันที่ 30 มิ.ย. และ 7 ก.ค.
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นของฝรั่งเศสจากฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (HCOB) ที่รวบรวมโดยเอสแอนด์พี โกลบอล อยู่ที่ระดับ 48.8 ในเดือนมิ.ย. ลดลงจาก PMI ขั้นสุดท้ายในเดือนพ.ค.ที่ระดับ 49.3 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ที่ 50
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ขณะเดียวกัน ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นต้นลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนที่ 45.3 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 46.4 ในเดือนพ.ค. และต่ำกว่าตัวเลขประมาณการที่ 46.8
คำสั่งซื้อใหม่ในภาคบริการลดลงสู่ระดับ 46.4 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน
ดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 48.2 ในเดือนมิ.ย. ลดลงจากระดับ 48.9 ในเดือนพ.ค.
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นักลงทุนกำลังจับตามองผลการดำเนินงานทางเศรษฐกิจของฝรั่งเศสอย่างใกล้ชิด เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลฝรั่งเศสที่พุ่งสูงขึ้นนั้น ทำให้เกิดความกังวลว่า รัฐบาลอาจประสบปัญหาในการจัดหาเงินทุนมาใช้สำหรับการขาดดุลงบประมาณ
"ความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงทำให้ภาคธุรกิจฝรั่งเศสชะลอตัว และกังวลกับช่วงเวลาที่ยากลำบากขึ้น" นายนอร์แมน ลิบกี นักเศรษฐศาสตร์จาก HCOB กล่าว พร้อมเสริมว่า ความคาดหวังต่อผลผลิตในอีก 12 เดือนข้างหน้าอ่อนแอลง