ผลสำรวจล่าสุดในวันนี้ (1 ก.ค.) เผยให้เห็นสัญญาณอันตรายของภาคการผลิตในยูโรโซนในเดือนมิ.ย. 2567 สะท้อนจากอุปสงค์ที่ลดลงอย่างรวดเร็ว แม้โรงงานต่าง ๆ จะพยายามลดราคาสินค้าแล้วก็ตาม
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของยูโรโซนเดือนมิ.ย.จากฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (HCOB) ที่รวบรวมโดยเอสแอนด์พี โกลบอล อยู่ที่ระดับ 45.8 ลดลงจาก 47.3 ในเดือนพ.ค. ใกล้เคียงกับค่าประมาณการเบื้องต้นที่ 45.6 และอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ต่อเนื่องมาเป็นเวลา 2 ปีแล้ว
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ดัชนีวัดผลผลิต ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดัชนี PMI รวมที่จะเผยแพร่ในวันพุธนี้ (3 ก.ค.) และถือเป็นดัชนีชี้วัดสุขภาพทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ลดลงจาก 49.3 ในเดือนพ.ค. สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนที่ 46.1 ในเดือนมิ.ย. แม้ว่าจะสูงกว่าค่าประมาณการเบื้องต้นเล็กน้อยที่ 46.0 ก็ตาม
"ดัชนี PMI ของทุกประเทศในยูโรโซน ยกเว้นอิตาลี ต่างปรับตัวลดลงในเดือนมิ.ย. อย่างไรก็ตาม เรามองว่านี่เป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราว มากกว่าจะเป็นสัญญาณของภาวะถดถอยที่ยืดเยื้อ" นายไซรัส เดอ ลา รูเบีย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก HCOB กล่าว
"เรายังคงเห็นการเติบโตในภาคการผลิตในภูมิภาคอื่น ๆ ของโลกในเดือนมิ.ย. เช่น สหรัฐ สหราชอาณาจักร และอินเดีย ซึ่งสะท้อนจากดัชนี PMI เบื้องต้นของแต่ละประเทศ การฟื้นตัวทั่วโลกเช่นนี้จะช่วยหนุนภาคการผลิตของยูโรโซนได้"
สำหรับดัชนียอดคำสั่งซื้อใหม่ร่วงลงสู่ระดับ 44.4 จาก 47.3 แม้โรงงานต่าง ๆ จะลดราคาสินค้าลงเป็นเดือนที่ 14 ติดต่อกันแล้วก็ตาม แต่ก็ลดลงน้อยกว่าเดือนก่อน ๆ
"เป็นเรื่องที่น่าหดหู่ที่ยอดคำสั่งซื้อใหม่ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มในอนาคต กำลังลดลงอย่างรวดเร็ว" นายเดอ ลา รูเบีย กล่าวเสริม