ผลสำรวจในวันนี้ (3 ก.ค.) เผยว่า ภาคบริการของอังกฤษมีอัตราการเติบโตชะลอตัวลงในเดือนมิ.ย. แต่ไม่ได้ชะลอตัวมากอย่างที่หลายฝ่ายกังวลไว้ในตอนแรก ถึงแม้จะเป็นตัวเลขต่ำสุดในรอบ 7 เดือนก็ตาม ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างซบเซาสำหรับรัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังจะเข้ามา
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนมิ.ย.ของอังกฤษจากเอสแอนด์พี โกลบอล แตะที่ระดับ 52.1 ลดลงจาก 52.9 ในเดือนพ.ค. ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2566 แต่สูงกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ 51.2
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ทางด้านเอสแอนด์พี โกลบอล ระบุว่า การชะลอตัวดังกล่าวเป็นเพราะหลายบริษัทกำลัง "รอดูท่าที" ผลการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษในวันพฤหัสบดีที่ 4 ก.ค.นี้ ซึ่งโพลส่วนใหญ่คาดว่าพรรคแรงงานซึ่งเป็นฝ่ายค้านจะชนะเลือกตั้ง และอาจได้เสียงข้างมากเป็นประวัติการณ์
"เราเห็นสัญญาณบางอย่างว่า เศรษฐกิจภาคบริการในสหราชอาณาจักรกำลังชะงักงันในช่วงก่อนการเลือกตั้งทั่วไป" นายโจ เฮย์ส หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอสแอนด์พี โกลบอล มาร์เก็ต อินเทลลิเจนซ์ กล่าว
นายเฮย์สมองว่า เศรษฐกิจยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในอีกไตรมาส แม้อาจจะชะลอตัวลงบ้างเมื่อเทียบกับช่วงสามเดือนแรกของปีที่ขยายตัว 0.7%
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ต้นทุนของบริษัทในภาคบริการลดลงต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2564 ซึ่งเป็นตัวชี้วัดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ใช้จับตามองอยู่ สถานการณ์นี้อาจทำให้ BoE มั่นใจมากขึ้นที่จะปรับลดดอกเบี้ยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
"แนวโน้มที่เห็นนี้ถือว่าน่าพอใจสำหรับแบงก์ชาติอังกฤษ แต่ผลสำรวจของเราพบว่าราคาสินค้าและบริการกลับปรับตัวสูงขึ้นในเดือนนี้ เพราะบางบริษัทบอกว่าพวกเขายังมีอำนาจต่อรองด้านราคามากพอที่จะขึ้นค่าบริการได้" นายเฮย์สกล่าว
ขณะเดียวกัน ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการขั้นสุดท้ายของอังกฤษ อยู่ที่ระดับ 52.3 ในเดือนมิ.ย. ลดลงจากระดับ 53.0 ในเดือนพ.ค. ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. แต่ก็ยังคงสูงกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ 51.7