กระทรวงการคลังเปิดเผยในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเพิ่มขึ้น 41.8% ในเดือนพ.ค. แตะที่ 2.85 ล้านล้านเยน (1.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อเทียบเป็นรายปี
ข้อมูลของกระทรวงการคลังระบุว่า ญี่ปุ่นขาดดุลการค้า 1.11 ล้านล้านเยนในเดือนพ.ค. เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินเยนส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าของญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นและบดบังการส่งออกที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ ยอดนำเข้าในเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 9.3% แตะที่ 9.24 ล้านล้านเยน ขณะที่ยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 12.1% แตะที่ 8.13 ล้านล้านเยน
ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา เงินเยนอ่อนค่าลง 13.7% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และอ่อนค่าลง 13.3% เมื่อเทียบกับยูโร โดยเงินเยนอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรในต่างประเทศปรับตัวสูงขึ้น หลังจากธนาคารกลางในประเทศต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ทั้งนี้ การที่เงินเยนอ่อนค่าลงถือเป็นข้อได้เปรียบสำหรับผู้ส่งออกของญี่ปุ่น เนื่องจากจะช่วยเพิ่มรายได้เมื่อกำไรจากต่างประเทศถูกแปลงเป็นเงินเยน รวมถึงดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เนื่องจากการท่องเที่ยวในญี่ปุ่นจะมีค่าใช้จ่ายไม่แพงมากเมื่อเงินเยนอ่อนค่า