ยูบีเอส (UBS) ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์เปิดเผยว่า ตุรกีแซงหน้าประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกในการจัดอันดับความมั่งคั่งทั่วโลกประจำปี ซึ่งเป็นผลการจัดอันดับที่น่าประหลาดใจเมื่อพิจารณาจากอัตราเงินเฟ้อที่ระดับสูงของตุรกี UBS ระบุในรายงานความมั่งคั่งทั่วโลกประจำปี 2567 (Global Wealth Report 2024) ว่า "ตุรกีมีความโดดเด่นด้วยการเติบโตด้านความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นกว่า 157% ต่อผู้ใหญ่ 1 คนระหว่างปี 2565-2566 ซึ่งทิ้งห่างประเทศอื่น ๆ ไปไกล"
รายงานระบุว่า ประเทศที่มีการเติบโตด้านความมั่งคั่งสูงสุดโดยเฉลี่ยต่อผู้ใหญ่ 1 คนลำดับต่อมาคือรัสเซียและกาตาร์ที่ระดับเกือบ 20% และแอฟริกาใต้ที่กว่า 16% ขณะที่การเติบโตด้านความมั่งคั่งโดยเฉลี่ยต่อผู้ใหญ่ 1 คนของสหรัฐเพิ่มขึ้นเกือบ 2.5%
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เงินเฟ้อในตุรกีอยู่ที่ระดับเกือบ 72% ซึ่งเป็นระดับที่สูงมากสำหรับประชากร 85 ล้านคน โดยชาวตุรกีมีกำลังซื้อลดลงอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เงินลีราตุรกีมีมูลค่าร่วงลงไปเกือบ 83% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนในวันพุธ (17 ก.ค.) ณ เวลา 09.07 น.ตามเวลาลอนดอนอยู่ที่ 33 ลีราต่อดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม สำหรับชาวตุรกีที่ถือครองสินทรัพย์อย่างที่อยู่อาศัยนั้น ความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น เนื่องจากเงินเฟ้อทำให้ราคาสินทรัพย์เพิ่มสูงขึ้น
อนึ่ง รายงานของ UBS นิยามมูลค่าสุทธิหรือ "ความมั่งคั่ง" ว่าเป็น "มูลค่าของสินทรัพย์ทางการเงินบวกกับสินทรัพย์จริง (เช่น ที่อยู่อาศัย) ที่ครัวเรือนเป็นเจ้าของ หักลบด้วยหนี้สิน"