ผลสำรวจในวันนี้ (24 ก.ค.) เผยว่า ภาคโรงงานของญี่ปุ่นหดตัวลงเล็กน้อยในเดือนก.ค. 2567 เนื่องจากผลผลิตและคำสั่งซื้อใหม่ลดลง ส่วนบริษัทต่าง ๆ ยังคงเผชิญแรงกดดันจากต้นทุนที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม การขยายตัวของภาคบริการช่วยให้กิจกรรมโดยรวมในภาคเอกชนของญี่ปุ่นกลับมาเติบโตได้ในเดือนก.ค.
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นจาก au Jibun Bank ที่รวบรวมโดยเอสแอนด์พี โกลบอล มาร์เก็ต อินเทลลิเจนซ์ (S&P Global Market Intelligence) อยู่ที่ระดับ 49.2 ในเดือนก.ค. ลดลงมาจากระดับ 50 ในเดือนมิ.ย. และอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 เป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ในทางตรงกันข้าม กิจกรรมภาคบริการในเดือนก.ค.ฟื้นตัวจากเดือนก่อนหน้า โดยมีธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
ดัชนี PMI ภาคบริการขั้นต้นจาก au Jibun Bank อยู่ที่ระดับ 53.9 ในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 49.4 ในเดือนมิ.ย. และแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน
ธุรกิจคงค้างของภาคบริการเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่ามีแรงกดดันต่อกำลังการผลิต
ด้านดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นจาก au Jibun Bank อยู่ที่ระดับ 52.6 ในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 49.7 ในเดือนมิ.ย.
อุซามะฮ์ ภัตติ นักเศรษฐศาสตร์จากเอสแอนด์พี โกลบอล มาร์เก็ต อินเทลลิเจนซ์ กล่าวว่า "ธุรกิจบริการเป็นผู้นำการขยายตัวและเห็นการเติบโตของกิจกรรมทางธุรกิจสูงสุดในรอบ 3 เดือน ในขณะที่ผู้ผลิตทางอุตสาหกรรมเห็นการหดตัวของผลผลิตอีกครั้ง แต่ก็ยังถือว่าลดลงเพียงเล็กน้อย"
ผลสำรวจระบุว่า ดัชนีย่อยด้านผลผลิตหดตัวเล็กน้อยในเดือนก.ค. พลิกกลับจากที่ขยายตัวในเดือนมิ.ย. และคำสั่งซื้อใหม่ก็ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.
ผู้ผลิตยังคงเผชิญแรงกดดันเนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้นในระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2566 ในขณะที่ราคาผลผลิตลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน