หุ้นบริษัทรถยนต์ไฟฟ้า (EV) รายใหญ่ของจีนหลายแห่งปรับตัวลดลงในวันนี้ (24 ก.ค.) หลังเทสลา (Tesla) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่จากสหรัฐ ทำกำไรได้น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ ขณะที่เจนเนอรัล มอเตอร์ส (GM) ชะลอแผนลงทุนในธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า หุ้นของเสี่ยวเผิง (Xpeng) ร่วง 5.74% ขณะที่หุ้นของนีโอ (Nio) ร่วง 5.26% ในวันนี้
ขณะที่หุ้นของลี ออโต (Li Auto) ร่วง 3.99% ส่วนบีวายดี (BYD) เจ้อเจียง ลีปมอเตอร์ (Zhejiang Leapmotor) และเอสเอไอซี มอเตอร์ (SAIC Motor) ปรับตัวลดลง 3.1%, 5.34% และ 1.02% ตามลำดับ
ทั้งนี้ เทสลาได้ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 2/2567 โดยมีกำไรต่ำกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากยอดขายยานยนต์ปรับตัวลดลง 2 ไตรมาสติดต่อกัน
รายได้ของเทสลาปรับตัวขึ้น 2% เมื่อเทียบรายปีจากระดับ 2.493 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่รายได้จากธุรกิจยานยนต์ร่วงหนักถึง 7% เหลือ 1.99 หมื่นล้านดอลลาร์ จาก 2.127 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า
ด้านนายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา ระบุในการกล่าวเปิดการประชุมรายได้ในวันอังคาร (23 ก.ค.) ว่า เทสลาจะจัดงานเปิดตัวรถแท็กซี่ไร้คนขับ (robotaxi) ในวันที่ 10 ต.ค. จากเดิมที่เขาเคยกล่าวไว้ว่า จะเปิดตัวในวันที่ 8 ส.ค.
ส่วนเจนเนอรัล มอเตอร์ส ประกาศชะลอการสร้างโรงงานรถบรรทุกไฟฟ้าแห่งที่ 2 ในสหรัฐ และรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกของแบรนด์บูอิค (Buick)