ผลสำรวจเบื้องต้นในวันนี้ (24 ก.ค.) เผยว่า การเติบโตของกิจกรรมทางธุรกิจในยูโรโซนชะงักงันในเดือนก.ค. หลังภาคบริการซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจยูโรโซนเติบโตอย่างอ่อนแรง จึงไม่สามารถชดเชยการทรุดตัวหนักขึ้นของภาคการผลิตได้
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นของยูโรโซนจากฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (HCOB) ที่รวบรวมโดยเอสแอนด์พี โกลบอล อยู่ที่ระดับ 50.1 ในเดือนก.ค. ลดลงจากระดับ 50.9 ในเดือนมิ.ย. และต่ำกว่าที่โพลของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ที่ 51.1
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
รายงานระบุว่า มุมมองต่ออนาคตในปีหน้าซบเซาลงอีกครั้ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริหารธุรกิจไม่ได้คาดหวังว่าสถานการณ์จะพลิกฟื้นในเร็ว ๆ นี้ โดยดัชนีคาดการณ์ผลผลิตในอนาคตโดยรวมตกลงมาอยู่ที่ระดับ 60.0 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน เทียบกับ 60.8 ในเดือนมิ.ย.
ด้านดัชนี PMI ภาคบริการขั้นต้นของยูโรโซนอยู่ที่ระดับ 51.9 ในเดือนก.ค. ลดลงจากระดับ 52.8 ในเดือนมิ.ย. และต่ำกว่าที่โพลคาดการณ์ไว้ที่ 53.0
แม้บริษัทในภาคบริการต้องแบกรับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นในเดือนนี้ แต่กลับปรับราคาสินค้าและบริการขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง โดยดัชนีราคาผลผลิตลดลงมาอยู่ที่ 53.2 จาก 53.5
สถานการณ์เช่นนี้อาจเป็นข่าวดีสำหรับผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่เพิ่งมีมติคงอัตราดอกเบี้ยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่ได้ปรับลดลงในเดือนมิ.ย. แต่ก็ส่งสัญญาณว่าการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยในเดือนก.ย. "ยังคงเปิดกว้าง"
ด้านดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นต้นของยูโรโซนอยู่ที่ระดับ 45.6 ในเดือนก.ค. ลดลงจากระดับ 45.8 ในเดือนมิ.ย. และถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ขณะที่ดัชนีที่ใช้วัดผลผลิตก็ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 45.3 จาก 46.1
ด้วยอุปสงค์ที่ลดลงอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบปี โรงงานต่าง ๆ จึงต้องปลดพนักงานออกในอัตราสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว โดยดัชนีการจ้างงานลดลงมาอยู่ที่ 46.8 จาก 47.5