ผลสำรวจเบื้องต้นเปิดเผยในวันนี้ (24 ก.ค.) ว่า กิจกรรมทางธุรกิจของอังกฤษปรับตัวดีขึ้นในเดือนก.ค. โดยได้แรงหนุนจากภาคการผลิตที่เติบโตเร็วที่สุดในรอบ 2 ปี พร้อมกับคำสั่งซื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2566
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นของอังกฤษจากเอสแอนด์พี โกลบอล อยู่ที่ระดับ 52.7 ในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนที่ 52.3 ในเดือนมิ.ย. และสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ในโพลของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ที่ 52.6
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
รายงานระบุว่า ดัชนี PMI ภาคบริการขั้นต้นของอังกฤษ อยู่ที่ระดับ 52.4 ในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 52.1 ในเดือนมิ.ย. และถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน
ด้านดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นต้นของอังกฤษ อยู่ที่ระดับ 51.8 ในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 50.9 ในเดือนมิ.ย. และถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2565
"ผลสำรวจธุรกิจครั้งแรกหลังการเลือกตั้งเผยภาพที่น่ายินดีสำหรับรัฐบาลชุดใหม่ โดยบริษัทต่าง ๆ ทั้งในภาคการผลิตและบริการต่างมีมุมมองต่ออนาคตที่สดใสขึ้น" นายคริส วิลเลียมสัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ด้านธุรกิจของเอสแอนด์พี กล่าว
ทั้งนี้ ดัชนีผลผลิตในอนาคตเพิ่มขึ้นจาก 70.4 เป็น 74.7 ในเดือนก.ค. ซึ่งถือเป็นตัวเลขสูงสุดอันดับ 2 นับตั้งแต่เดือนก.พ. 2565 โดยได้รับแรงหนุนส่วนหนึ่งจากการเติบโตของคำสั่งซื้อส่งออกที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2566
"บริษัทหลายแห่งสังเกตเห็นว่าความเชื่อมั่นในตลาดดีขึ้นและสามารถปิดดีลสัญญาใหม่ ๆ ได้มากขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ลูกค้าชะลอการตัดสินใจใช้จ่ายในช่วงก่อนการเลือกตั้งทั่วไป" เอสแอนด์พีระบุ