ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ (Samsung Electronics) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปหน่วยความจำและสมาร์ตโฟนรายใหญ่ของโลกเปิดเผยรายได้และผลกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 สูงกว่าคาด เนื่องจากความต้องการชิปหน่วยความจำขั้นสูงของบริษัทที่มีความสำคัญต่อการฝึกฝนปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังคงแข็งแกร่ง
รายได้ของซัมซุงอยู่ที่ 74.07 ล้านล้านวอนในไตรมาส 2 ซึ่งสูงกว่าระดับคาดการณ์เฉลี่ยของนักวิเคราะห์ที่ 73.74 ล้านล้านวอนจากข้อมูลของแอลเอสอีจี (LSEG) ขณะที่ผลกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทอยู่ที่ 10.44 ล้านล้านวอน สูงกว่าระดับคาดการณ์ที่ 9.53 ล้านล้านวอน
รายได้ของซัมซุงในไตรมาส 2 ซึ่งนับถึงสิ้นเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 23.42% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่ผลกำไรจากการดำเนินงานพุ่งขึ้น 1,458.2%
ซัมซุงระบุว่า ความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับทั้งชิปความเร็วสูงและชิปแบบดั้งเดิม อาทิ หน่วยความจำเข้าถึงโดยสุ่มแบบพลวัต (DRAM) จากบรรดาลูกค้าที่ขยายการลงทุนด้าน AI ได้ส่งผลให้บริษัททำผลงานได้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ซัมซุงคาดว่า ความต้องการเซิร์ฟเวอร์ AI จะยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ต่าง ๆ รวมถึง HBM และ SSD และเสริมว่า การขยายกำลังการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการ HBM และ DRAM เซิร์ฟเวอร์อาจทำให้อุปทานของชิปหน่วยความจำแบบดั้งเดิมมีจำกัด
ทั้งนี้ SSD หรือ โซลิดสเตตไดรฟ์ (solid-state drive) คืออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่ใช้เซมิคอนดักเตอร์ซึ่งพบได้ในคอมพิวเตอร์ ขณะที่ชิปหน่วยความจำ HBM มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับชิป AI ซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากเนื่องจากการเติบโตของ AI ซึ่งส่งผลดีต่อบริษัทต่าง ๆ เช่น ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ และเอสเค ไฮนิกซ์ (SK Hynix) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปหน่วยความจำยักษ์ใหญ่ของโลก