โพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์เผยว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มจะฟื้นตัวขึ้นในไตรมาสสองของปี 2567 หลังจากที่หดตัวในไตรมาสก่อนหน้า ด้วยอานิสงส์จากผลผลิตภาคโรงงานและการบริโภคที่เพิ่มขึ้น ช่วยให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีเหตุผลในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า เงินเยนที่แข็งค่าขึ้นและสัญญาณการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจสหรัฐ อาจทำให้เกิดความเสี่ยงใหม่ต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก
นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศแท้จริง (real GDP) ของญี่ปุ่น น่าจะขยายตัวขึ้น 2.1% เมื่อเทียบรายปีในไตรมาสสอง หลังหดตัวลง 2.9% ในไตรมาสก่อนหน้า
โพลเผยให้เห็นว่า การบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น 0.5% ซึ่งนับเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 ไตรมาส เพราะคาดว่าการปรับขึ้นค่าจ้างของบริษัทต่าง ๆ ในการเจรจาค่าจ้างในช่วงฤดูใบไม้ผลิเริ่มทำให้ครัวเรือนต่าง ๆ มีรายได้มากขึ้น
นายไซสุเกะ ซากาอิ นักเศรษฐศาสตร์จาก Mizuho Research & Technologies กล่าวว่า "แม้ดีมานด์ทั่วโลกที่ชะลอตัวลงและเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ จะยังคงฉุดรั้งการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะฟื้นตัวขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างที่แข็งแกร่งและผลผลิตที่เพิ่มขึ้นในภาคยานยนต์"
ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นจะเปิดเผยข้อมูล GDP เบื้องต้นประจำไตรมาส 2/2567 ในวันที่ 15 ส.ค.