สถาบันเวสต์แพค-เมลเบิร์น เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ (13 ส.ค.) ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคออสเตรเลียเดือนส.ค. 2567 เพิ่มขึ้น 2.8% มาอยู่ที่ระดับ 85 จุด เมื่อเทียบรายเดือน พลิกกลับจากที่ลดลง 1.1% ในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี ดัชนีอยู่ต่ำกว่าระดับ 100 จุด บ่งชี้ว่าผู้บริโภคที่มีมุมมองเชิงลบมีจำนวนมากกว่าผู้บริโภคที่มีมุมมองเชิงบวก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคออสเตรเลียฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคคลายวิตกเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ขณะที่มาตรการลดภาษีและมาตรการบรรเทาค่าครองชีพอื่น ๆ ของรัฐบาลช่วยให้มุมมองต่อฐานะการเงินของครัวเรือนปรับตัวดีขึ้น
นายแมทธิว ฮัสซัน นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของเวสต์แพค กล่าวว่า "ผู้บริโภคเริ่มรู้สึกโล่งใจขึ้นเล็กน้อยในเดือนส.ค. เนื่องจากคณะกรรมการธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) คงอัตราดอกเบี้ยไว้ ขณะที่มาตรการช่วยเหลือจากการลดหย่อนภาษีและมาตรการทางการคลังอื่น ๆ เริ่มเห็นผลชัดเจนขึ้น"
นายฮัสซันกล่าวเพิ่มเติมว่า ดัชนีชี้วัดมุมมองของผู้บริโภคเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของครัวเรือนพุ่งขึ้น 11.7% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นรายเดือนมากที่สุดในรอบ 9 ปี โดยปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุดในกลุ่มผู้มีรายได้น้อย
ทั้งนี้ RBA ได้คงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายล่าสุดในเดือนนี้ แม้จะมีการถกเถียงกันว่าควรขึ้นดอกเบี้ยต่อหรือไม่ก็ตาม โดยมองว่ายังไม่จำเป็นต้องลดดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากคาดว่าเงินเฟ้อพื้นฐานจะค่อย ๆ ชะลอตัวลง
คณะกรรมการ RBA มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.35% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 12 ปีและเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันในการประชุม 6 ครั้ง โดยคณะกรรมการ RBA ต้องการรอให้เงินเฟ้อชะลอตัวลงก่อนที่จะส่งสัญญาณใด ๆ เกี่ยวกับการผ่อนคลายนโยบายการเงินตามทิศทางธนาคารกลางอื่น ๆ ทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ในตลาดกลับมองว่า RBA มีแนวโน้มจะผ่อนคลายนโยบายการเงินและลดดอกเบี้ยลงภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งต่างจากช่วงก่อนหน้าที่คาดการณ์กันว่าอัตราดอกเบี้ยอาจปรับตัวสูงขึ้นอีก
ผลสำรวจยังพบว่า สัดส่วนของผู้ตอบแบบสอบถามที่คาดว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองจะปรับตัวสูงขึ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้า ลดลง 14.9% ในเดือนส.ค.
ส่วนดัชนีชี้วัดว่านี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการซื้อสินค้าชิ้นใหญ่ในครัวเรือนหรือไม่ เพิ่มขึ้น 0.6% แต่ยังอยู่ในระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ 82.6 จุด