สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยวันนี้ (14 ส.ค.) ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนหดตัว 0.1% ในเดือนมิ.ย. 2567 หลังจากที่ลดลง 0.9% ในเดือนพ.ค. และลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สามติดต่อกันแล้ว สะท้อนให้เห็นว่าการฟื้นตัวจากภาวะถดถอยในภาคส่วนนี้ยังคงเป็นเรื่องยาก
ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้มาก โดยผลสำรวจของเดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล (WSJ) ชี้ว่านักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% ส่งผลให้ผลผลิตของภาคโรงงานยังคงต่ำกว่าระดับที่เคยบันทึกไว้ก่อนที่รัสเซียจะบุกยูเครนในช่วงต้นปี 2565
ผลกระทบจากภาวะซบเซาในภาคการผลิตนั้นรุนแรงเป็นพิเศษในเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยูโรโซน และมีฐานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ต้องใช้พลังงานมาก การผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ลดลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาส่งผลให้เศรษฐกิจของเยอรมนีหดตัวในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้
อุตสาหกรรมในยูโรโซนยังคงฟื้นตัวยากจากวิกฤตพลังงานที่เกิดจากสงคราม แม้ว่าช่วงต้นปี 2567 จะมีความหวังว่าราคาพลังงานที่ลดลงอาจช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวได้
สำหรับเดือนมิ.ย.เพียงเดือนเดียว การลดลงอย่างรุนแรงถึง 7.8% ของผลผลิตภาคโรงงานในไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่มักผันผวนสูงในข้อมูลอุตสาหกรรม อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ตัวเลขโดยรวมของยูโรโซนลดลง ทั้งที่หากไม่มีปัจจัยนี้ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนอาจมีการขยายตัวเล็กน้อย ทั้งนี้ ไอร์แลนด์เป็นที่ตั้งของบริษัทข้ามชาติจำนวนมากที่ใช้การผลิตแบบจ้างงานภายนอก