สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยในวันนี้ (16 ส.ค.) ว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ค. 2567 ในอังกฤษขยายตัว 0.5% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน พลิกกลับจากเดือนมิ.ย.ที่หดตัว 0.9% โดยตัวเลขดังกล่าวสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ในโพลของสำนักข่าวรอยเตอร์
การเติบโตของยอดค้าปลีกในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เริ่มคลี่คลายลง หลังจากที่ประชาชนชาวอังกฤษต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2565-2566 โดยอัตราเงินเฟ้อกลับมาอยู่ที่เป้าหมาย 2% ในเดือนพ.ค.และมิ.ย. ส่วนเดือนก.ค.สูงกว่าเป้าหมายเล็กน้อย ขณะที่อัตราการเติบโตของค่าจ้างสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อมากที่สุดนับตั้งแต่กลางปี 2564
ONS ระบุเพิ่มเติมว่า เมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 1.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ในโพลของรอยเตอร์ อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับเดือนก.พ. 2563 ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายก่อนที่จะมีการใช้มาตรการล็อกดาวน์สกัดโควิด-19 ยอดค้าปลีกก็ยังคงต่ำกว่าอยู่ 0.8%
ทั้งนี้ ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกลงจากระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคซึ่งมีการสำรวจยาวนานที่สุดของอังกฤษนั้น ได้ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี ในเดือนก.ค. โดยผู้บริโภคระบุว่าฐานะทางการเงินของพวกเขาดีขึ้น และมีความเต็มใจที่จะจับจ่ายใช้สอยสินค้าชิ้นใหญ่มากขึ้น
อย่างไรก็ดี รายงานล่าสุดจากผู้ค้าปลีกอังกฤษยังคงมีทั้งแง่บวกและลบ โดยบริษัทค้าปลีกเสื้อผ้าเน็กซ์ (Next) รายงานยอดขายในไตรมาส 2 ที่ดีกว่าคาด และปรับเพิ่มประมาณการกำไรทั้งปี ในทางตรงกันข้าม ขณะที่แบรนด์หรูอย่างเบอร์เบอรี่ (Burberry) เตือนว่าผลกำไรของบริษัทอาจลดลง ส่วนผู้ค้าปลีกอังกฤษรายอื่น ๆ ชี้ว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ในระดับต่ำสำหรับสินค้าฟุ่มเฟือย