ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นของยูโรโซนจากฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (HCOB) ซึ่งรวบรวมโดยเอสแอนด์พี โกลบอล อยู่ที่ระดับ 51.2 ในเดือนส.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 50.2 ในเดือนก.ค.
ตัวเลขดังกล่าวออกมาดีเกินคาดจนสร้างความประหลาดใจให้กับนักวิเคราะห์ในโพลของสำนักข่าวรอยเตอร์ที่คาดการณ์ว่าจะลดลงสู่ระดับ 50.1 โดยแม้แต่การคาดการณ์ที่มองในแง่ดีที่สุดในโพลก็ยังอยู่แค่ 50.8
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
การฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นแม้ว่าบริษัทต่าง ๆ ในยูโรโซนจะปรับราคาสินค้าและบริการเร็วขึ้นกว่าเดิม โดยดัชนีราคาผลผลิตรวมปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 52.9 จาก 52.1
รายงานระบุว่า ดัชนี PMI ภาคบริการขั้นต้นของยูโรโซน อยู่ที่ระดับ 53.3 ในเดือนส.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 51.9 ในเดือนก.ค. และสูงกว่าที่โพลคาดไว้ว่าจะทรงตัว
แม้การเติบโตบางส่วนเกิดจากการที่บริษัทในภาคบริการเร่งดำเนินงานที่ค้างอยู่ แต่ดีมานด์โดยรวมก็ปรับตัวดีขึ้น โดยดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนที่ระดับ 51.3 จาก 50.8
ในทางกลับกัน ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นต้นของยูโรโซน อยู่ที่ระดับ 45.6 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน ลดลงจากระดับ 45.8 ในเดือนก.ค.
ถึงกระนั้น ดัชนีชี้วัดผลผลิตกลับขยับขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 45.7 จาก 45.6
ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นในหมู่ผู้จัดการโรงงานลดลงอีกครั้ง และมีการลดจำนวนพนักงานในอัตราที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว โดยดัชนีการจ้างงานในภาคการผลิตปรับตัวลดลงสู่ระดับ 46.6 จาก 47.0