ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) เปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (22 ส.ค.) ว่า อินโดนีเซียมียอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเพิ่มขึ้นคิดเป็นสัดส่วน 0.9% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) หรือ 3 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2/2567 จากยอดขาดดุลหลังปรับค่าที่ 0.7% ของ GDP ในไตรมาสก่อนหน้า
ข้อมูลจากแอลเอสอีจี เวิร์คสเปซ (LSEG Workspace) ระบุว่า ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์นั้นอยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2/2563
ธนาคารกลางอินโดนีเซียระบุว่า การขาดดุลในภาคการค้าบริการขยายตัวขึ้น เนื่องจากการเดินทางไปร่วมพิธีฮัจญ์ในช่วงไตรมาสดังกล่าว ซึ่งส่งผลกระทบต่อดุลบัญชีเดินสะพัดของประเทศ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ธนาคารกลางอินโดนีเซียเปิดเผยก่อนหน้านี้ในสัปดาห์นี้ว่า ธนาคารฯ คาดว่าการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดจะยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยยังคงแนวโน้มการขาดดุลไว้ที่ 0.1%-0.9% ของตัวเลข GDP ในปีนี้
ธนาคารกลางอินโดนีเซียเสริมว่า ดุลการชำระเงินของไตรมาส 2/2567 ขาดดุลที่ประมาณ 600 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับการขาดดุล 6 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก