รายงานล่าสุดในวันนี้ (2 ก.ย.) เผยว่า ภาคการผลิตในยูโรโซนยังคงหดตัวต่อเนื่องในเดือนส.ค. 2567 สอดคล้องกับอุปสงค์ที่ลดลงอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบปี ส่งผลให้ความหวังในการฟื้นตัวในระยะอันใกล้นี้ริบหรี่ลง
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของยูโรโซนจากฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (HCOB) ซึ่งรวบรวมโดยเอสแอนด์พี โกลบอล อยู่ที่ 45.8 ในเดือนส.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์เบื้องต้นเล็กน้อยที่ 45.6
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ดัชนีผลผลิต ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-ภาคบริการที่จะประกาศในวันพุธนี้ (4 ก.ย.) และถือเป็นตัวบ่งชี้สุขภาพทางเศรษฐกิจ ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 45.8 ในเดือนส.ค. จาก 45.6 ในเดือนก.ค. สูงกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ 45.7
ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ลดลงสู่ระดับ 43.3 จาก 44.1 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. อุปสงค์จากต่างประเทศก็ลดลงอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบปีนี้เช่นกัน
ไซรัส เดอ ลา รูเบีย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก HCOB กล่าวว่า ภาคการผลิตกำลังเผชิญกับภาวะถดถอยต่อเนื่องยาวนานกว่า 26 เดือนแล้ว โดยคำสั่งซื้อทั้งในและต่างประเทศที่ลดลงยิ่งฉุดรั้งโอกาสในการฟื้นตัว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ผลิตเริ่มปรับขึ้นราคาเป็นครั้งแรกในรอบ 16 เดือน นำโดยโรงงานในฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ กรีซ และอิตาลี ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในการควบคุมเงินเฟ้อ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อัตราเงินเฟ้อโดยรวมในยูโรโซนกลับลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี ที่ 2.2% ในเดือนส.ค. ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ ECB ผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม โดยนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอีก 2 ครั้งในเดือนก.ย.และธ.ค.ปีนี้ แม้จะลดน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก็ตาม