ผลสำรวจล่าสุดเปิดเผยในวันนี้ (4 ก.ย.) ว่า ภาคบริการของฝรั่งเศสขยายตัวแข็งแกร่งที่สุดในรอบกว่า 2 ปีในเดือนส.ค. 2567 โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2565 โดยได้อานิสงส์จากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและอุปสงค์ในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ดัชนี PMI ภาคบริการขั้นสุดท้ายของฝรั่งเศสจากฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (HCOB) พุ่งขึ้นแตะ 55.0 ในเดือนส.ค. จาก 50.1 ในเดือนก.ค. นับเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 3 ปี
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
นอร์แมน ลิบกี นักเศรษฐศาสตร์จาก HCOB ชี้ว่า ตัวเลข PMI ดังกล่าวมาจากโอลิมปิกที่เป็นปัจจัยบวกชั่วคราว
"นี่ไม่ใช่ระดับที่ยั่งยืน ... แรงส่งแบบครั้งเดียวมันไม่เห็นชัดในดัชนีย่อย PMI ตัวอื่น ๆ เลย มีเพียงกิจกรรมทางธุรกิจกับคำสั่งซื้อใหม่เท่านั้นที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ" ลิบกีกล่าว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แม้ภาพรวมจะเติบโต แต่อัตราการจ้างงานกลับชะลอตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 โดยดัชนีย่อยด้านการจ้างงานลดลงเข้าใกล้ระดับทรงตัว
ด้านต้นทุนการผลิตปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 39 เดือน แต่ผู้ให้บริการยังคงปรับขึ้นราคาค่าบริการแบบดุเดือด ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อด้านราคาผลผลิตเร่งตัวขึ้นจากเดือนก.ค.
"ค่าจ้างยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น" ลิบกีเสริม
คำสั่งซื้อใหม่ฟื้นตัวบางส่วนในเดือนส.ค. หลังจากลดลงในเดือนมิ.ย.และก.ค. โดยการเติบโตครั้งนี้มาจากอุปสงค์ในประเทศเป็นหลัก ขณะที่คำสั่งซื้อใหม่จากลูกค้าต่างประเทศลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6
ความเชื่อมั่นทางธุรกิจยังคงซบเซา เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองบั่นทอนการมองโลกในแง่ดี ส่วนงานค้าง (Backlog) ลดลงเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. บ่งชี้ว่าแรงกดดันต่อกำลังการผลิตของบริษัทลดลง
ด้านดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นสุดท้าย ปรับตัวขึ้นเป็น 53.1 ในเดือนส.ค. จาก 49.1 ในเดือนก.ค. โดยได้แรงหนุนจากภาคบริการเป็นหลัก