เหล่าผู้ผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ของญี่ปุ่นได้ค้าขายกับลูกค้ารายใหญ่อย่างจีนจนทำรายได้มหาศาล แม้จะตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากอันเป็นผลจากความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐฯ
สำนักข่าวซีเอ็นบีซี (CNBC) รายงานว่า โตเกียว อิเล็กตรอน (Tokyo Electron) ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ของญี่ปุ่น มีส่วนแบ่งรายได้จากจีนพุ่งขึ้นสู่ระดับ 44% ในช่วงสิ้นปีงบการเงินเมื่อเดือนมี.ค. 2567 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของเมื่อปีก่อนหน้าที่ 23%
นอกจากนี้ ส่วนแบ่งรายได้จากจีนพุ่งขี้นเป็นเกือบ 50% ในไตรมาสแรกของปีงบการเงิน 2568 เมื่อเทียบกับระดับ 39.3% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
ขณะเดียวกัน สกรีน โฮลดิงส์ (Screen Holdings) มีสัดส่วนรายได้จากจีนมากถึง 43% ของยอดขายทั้งหมด ในช่วงสิ้นปีงบการเงินซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อเดือนมี.ค. 2567 เพิ่มขึ้นจาก 19% ในปีงบการเงิน 2566 โดยสัดส่วนรายได้ดังกล่าวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 51% ในไตรมาสแรกของปีงบการเงินปัจจุบัน จาก 23% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ทั้งยังคาดว่า สัดส่วนรายได้จากจีนจะอยู่ที่ 41% สำหรับปีงบการเงินซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมี.ค. 2568
การค้าขายที่สร้างรายได้มหาศาลเช่นนี้ตอกย้ำความท้าทายที่ญี่ปุ่นต้องเผชิญ ในการรักษาสมดุลระหว่างความต้องการของทางการสหรัฐฯกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเอง
ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังออกมาตรการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีสำคัญต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีประมวลผลควอนตัมและเซมิคอนดักเตอร์ โดยมาตรการดังกล่าวมีขึ้นเพื่อขัดขวางความก้าวหน้าในจีนและประเทศอื่น ๆ ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับสหรัฐและชาติพันธมิตร
ทั้งนี้ อุปกรณ์การผลิตที่บริษัทญี่ปุ่นจัดหาให้จีนนั้นคาดว่าน่าจะเป็นอุปกรณ์สำหรับชิปรุ่นเก่า ซึ่งใช้ในรถยนต์ มากกว่าที่จะเป็นชิปสำหรับสมาร์ตโฟนหรือสำหรับการฝึกอบรมโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI)