สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยวันนี้ (6 ก.ย.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของยูโรโซนไตรมาสที่ 2/2567 ขยายตัวเพียง 0.2% จากไตรมาสก่อนหน้า ต่ำกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ 0.3%
รายงานระบุว่า แม้การค้าและการใช้จ่ายภาครัฐช่วยพยุงการเติบโต แต่การลงทุนยังคงเป็นปัจจัยฉุดรั้งเศรษฐกิจ
การบริโภคภาคเอกชน ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการฟื้นตัวของยูโรโซน กลับไม่เติบโตเท่าที่คาดการณ์ไว้ แม้ครัวเรือนได้อานิสงส์จากอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัว รายได้ที่เพิ่มขึ้น และตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งก็ตาม
ในส่วนของการจ้างงานยังคงเติบโตต่อเนื่องในไตรมาสนี้ แต่อัตราการเติบโตชะลอตัวลงเล็กน้อยอยู่ที่ 0.2% จาก 0.3%
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ข้อมูลดังกล่าวเผยแพร่ออกมาก่อนที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะประชุมพิจารณาเรื่องอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในสัปดาห์หน้า หลังลดดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมิ.ย. ภาวะเศรษฐกิจซบเซาได้กลายเป็นประเด็นน่ากังวลมากขึ้น โดยเจ้าหน้าที่บางรายแสดงความเป็นห่วงว่านโยบายการเงินที่เข้มงวดอาจเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจของยูโรโซนคือเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยูโรโซน โดย GDP ของเยอรมนีหดตัวในไตรมาสที่ 2/67 จากความอ่อนแอต่อเนื่องในภาคการผลิต
นอกจากนี้ ภาคอุตสาหกรรมเยอรมนียังคงเริ่มต้นไตรมาสที่ 3/67 ด้วยสถานการณ์ที่ไม่สดใสนัก โดยข้อมูลล่าสุดในวันนี้บ่งชี้ว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนก.ค.ลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ สอดคล้องกับแนวโน้มที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศส