ผลสำรวจที่เผยแพร่ในวันนี้ (10 ก.ย.) แสดงให้เห็นว่า ภาวะธุรกิจของออสเตรเลียในเดือนส.ค. 2567 ทรุดตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง และแนวโน้มการจ้างงานยังซบเซา
ผลสำรวจของเนชันแนล ออสเตรเลีย แบงก์ (NAB) พบว่า ดัชนีภาวะธุรกิจลดลง 3 จุด มาอยู่ที่ +3 ซึ่งถือว่าต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2565 และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว
ในทำนองเดียวกัน ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจปรับตัวลงถึง 5 จุด มาอยู่ที่ -4 ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดของปีนี้
เมื่อพิจารณาในรายละเอียดของตัวชี้วัด พบว่าดัชนีการจ้างงานดิ่งลงจาก +7 มาอยู่ที่ +1 หลังจากที่เคยกระเตื้องขึ้นเล็กน้อยในเดือนก.ค. ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลที่ว่า ยอดขายและกำไรที่อ่อนแอลงกำลังส่งผลกระทบต่อความต้องการแรงงาน
อลัน ออสเตอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ NAB กล่าวว่า "ข้อมูลนี้บ่งชี้ว่าช่วงเวลาที่ภาคเอกชนมีความต้องการแรงงานสูงมาก ๆ อย่างที่เราเห็นมาตลอดหลังยุคโควิด อาจกำลังจะสิ้นสุดลง"
"ขณะนี้ภาวะธุรกิจโดยรวมอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับข้อมูลในอดีตจากการสำรวจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอในวงกว้างของภาคเอกชน อันเป็นผลมาจากเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวลง"
ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.35% มาตั้งแต่เดือนพ.ย. 2566 โดยเชื่อมั่นว่าอัตราดอกเบี้ยในระดับนี้สูงพอที่จะฉุดเงินเฟ้อให้กลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายที่ 2-3% ได้ โดยไม่กระทบต่อการจ้างงาน
อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงอยู่ในระดับสูงถึง 3.9% ในไตรมาสที่ผ่านมา (เม.ย.-มิ.ย.) ส่งผลให้ผู้กำหนดนโยบายแทบจะตัดความเป็นไปได้ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ออกไป
แม้ RBA ยังไม่ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย แต่ตลาดก็ยังคงคาดการณ์กันว่า มีความเป็นไปได้สูงถึง 80% ที่ RBA จะลดดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะผ่อนคลายนโยบายการเงินในเดือนนี้ ตามรอยธนาคารกลางของหลายประเทศทั่วโลก