ผลสำรวจล่าสุดในวันนี้ (24 ก.ย.) บ่งชี้ว่า กิจกรรมในภาคโรงงานของญี่ปุ่นในเดือนก.ย.แผ่วลง เนื่องจากการผลิตที่ลดลง แม้ว่าภาคบริการจะยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งช่วยพยุงภาพรวมของธุรกิจญี่ปุ่นไว้ได้
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นของญี่ปุ่นจาก au Jibun Bank ลดลงมาอยู่ที่ 49.6 ในเดือนก.ย. จาก 49.8 ในเดือนส.ค. โดยอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 แล้ว
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ดัชนีย่อยด้านผลผลิตลดลงเล็กน้อยในเดือนก.ย. เมื่อเทียบกับเดือนส.ค. ขณะที่ดัชนีย่อยด้านคำสั่งซื้อใหม่ก็หดตัวลงในอัตราที่ชะลอตัวลง
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่า อัตราเงินเฟ้อ ทั้งในส่วนของราคาปัจจัยการผลิตและผลผลิต มีการชะลอตัวลง
ความเชื่อมั่นของผู้ผลิตต่อแนวโน้มธุรกิจในเดือนก.ย.ยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยดัชนีที่สะท้อนมุมมองต่อผลผลิตในอนาคตลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2565
ขณะเดียวกัน ดัชนี PMI ภาคบริการขั้นต้นของ au Jibun Bank เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 53.9 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน จาก 53.7 ในเดือนส.ค.
ผลสำรวจระบุว่า ราคาปัจจัยการผลิตโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. แต่ราคาที่บริษัทเรียกเก็บสำหรับบริการต่าง ๆ ในญี่ปุ่นกลับเพิ่มในอัตราที่เร่งตัวขึ้น เนื่องจากบริษัททยอยผลักภาระต้นทุนที่สูงขึ้นไปยังผู้บริโภค
อุซามะฮ์ ภัตติ จากเอสแอนด์พี โกลบอล มาร์เก็ต อินเทลลิเจนซ์ ผู้จัดทำผลสำรวจระบุว่า "การขยายตัวของกิจกรรมทางธุรกิจในเดือนก.ย.ยังคงได้รับแรงขับเคลื่อนหลักจากภาคบริการ"
"ทั้งบริษัทในภาคการผลิตและภาคบริการต่างระบุว่า แรงกดดันด้านต้นทุนลดลง แม้ว่าโดยรวมแล้ว ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโดยเฉลี่ยยังคงอยู่ในระดับสูง"
ทั้งนี้ ดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นของ au Jibun Bank อยู่ที่ 52.5 ในเดือนก.ย. ซึ่งถือเป็นการขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3