สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยในวันนี้ (27 ก.ย.) ว่า กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมร่วงลง 17.8% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 4.1% ในเดือนก.ค. ส่วนกำไรในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ส.ค.) ปรับตัวขึ้นเพียง 0.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดือนม.ค. -ก.ค.ที่เพิ่มขึ้น 3.6% ซึ่งเป็นหลักฐานล่าสุดที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนัก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาซึ่งมีการเปิดเผยในช่วงต้นเดือนนี้ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวอย่างอ่อนแอของจีน และทำให้บริษัทโบรกเกอร์รายใหญ่หลายแห่งพากันปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 2567 ลงสู่ระดับต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลจีนกำหนดไว้ที่ประมาณ 5%
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นที่มีต่อเศรษฐกิจจีน ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ประกาศเมื่อวันอังคาร (24 ก.ย.) ว่าจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งรวมถึงแผนการปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.50%
ล่าสุด PBOC ได้ประกาศอย่างเป็นทางการในวันนี้ (27 ก.ย.) ว่า RRR จะถูกปรับลดลง 0.50% ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พร้อมกับประกาศลดอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (Reverse Repo Rate) ระยะ 7 วัน ลงจากระดับ 1.7% สู่ระดับ 1.5%
PBOC ระบุว่าการปรับลด RRR จะช่วยปลดปล่อยสภาพคล่องระยะยาวมูลค่าประมาณ 1 ล้านล้านหยวนให้กับธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารเหล่านี้สามารถปล่อยเงินกู้ได้มากขึ้นและซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่นำออกจำหน่ายเพื่อสนับสนุนการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน