ผลสำรวจล่าสุดจากเอสแอนด์พี โกลบอล (S&P Global) และจูโด แบงก์ (Judo Bank) ที่เผยแพร่ในวันนี้ (1 ต.ค.) บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของออสเตรเลียยังคงอยู่ในภาวะถดถอย โดยในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ยอดคำสั่งซื้อใหม่และปริมาณการผลิตลดลงอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบกว่า 4 ปี
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนก.ย. ของออสเตรเลีย ปรับตัวลงแตะระดับ 46.7 จากระดับ 48.5 ในเดือนส.ค. ซึ่งนับเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันแล้วที่ดัชนีอยู่ต่ำกว่าระดับ 50
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
รายงานระบุว่า ยอดคำสั่งซื้อใหม่และปริมาณการผลิตลดลงอย่างรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2563 เป็นต้นมา สาเหตุหลักมาจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงและสภาวะตลาดที่ชะลอตัว นอกจากนี้ ยอดคำสั่งซื้อจากต่างประเทศก็ดิ่งลงเช่นกัน เนื่องจากความต้องการจากตลาดต่างประเทศที่อ่อนแอ
แมทธิว เดอ ปาสควาล นักเศรษฐศาสตร์จากจูโด แบงก์ให้ความเห็นว่า "ผู้ผลิตกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทายในช่วงปลายปี 2567 โดยได้รับผลกระทบจากการชะงักงันของภาคก่อสร้างทั่วประเทศ รวมถึงตลาดผู้บริโภคที่ซบเซา"
"แม้ว่าในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า อาจมีสัญญาณการฟื้นตัวบ้างจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายในครัวเรือนและการเติบโตของประชากรที่แข็งแกร่ง แต่แนวโน้มเบื้องต้นบ่งชี้ว่า ภาวะซบเซาน่าจะยังคงเป็นความท้าทายสำคัญของภาคการผลิตไปจนถึงปี 2568"
ในด้านราคาพบว่า ต้นทุนปัจจัยการผลิตเฉลี่ยยังคงเพิ่มขึ้น โดยมีสาเหตุหลักมาจากราคาวัตถุดิบ ค่าขนส่ง และค่าพลังงานที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อจากต้นทุนปัจจัยการผลิตในเดือนก.ย.ชะลอตัวลงต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ส่งผลให้ผู้ผลิตสามารถปรับขึ้นราคาขายได้ในอัตราที่ช้าลง