ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของอินเดีย ซึ่งจัดทำโดยเอสแอนด์พี โกลบอล (S&P Global) บ่งชี้ในวันนี้ (4 ต.ค.) ว่า การเติบโตของภาคบริการซึ่งเป็นภาคเศรษฐกิจหลักของอินเดียยังคงแข็งแกร่ง แต่ชะลอตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือนในเดือนก.ย. สืบเนื่องจากอุปสงค์ลดลง
ดัชนี PMI ภาคบริการขั้นสุดท้ายของอินเดียจาก HSBC ลดลงมาอยู่ที่ 57.7 ในเดือนก.ย. จากระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนที่ 60.9 ในเดือนส.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์เบื้องต้นที่ 58.9 ทั้งนี้ ดัชนีอยู่เหนือระดับ 50 มานานกว่า 3 ปีแล้ว
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่า กิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ปราณจุล ภัณฑารี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำอินเดียของ HSBC ชี้ว่า "ดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจหลักลดลงต่ำกว่า 60 เป็นครั้งแรกในปี 2567 อย่างไรก็ตาม ที่ระดับ 57.7 ก็ยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวอย่างมาก" โดยดัชนีดังกล่าวอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งเป็นเส้นแบ่งระหว่างการขยายตัวและการหดตัวมานานกว่าสามปี
ดัชนีย่อยคำสั่งซื้อใหม่ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดอุปสงค์โดยรวม ลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว แม้ยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ขณะที่อุปสงค์จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นในอัตราช้าที่สุดในปีนี้
อย่างไรก็ดี มุมมองทางธุรกิจสำหรับปีหน้าปรับตัวดีขึ้น กระตุ้นให้บริษัทต่าง ๆ ยังคงจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการจ้างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนส.ค. นับเป็นการขยายตัวของการจ้างงานติดต่อกันนานกว่า 2 ปี
ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นจากเดือนส.ค. เนื่องจากค่าไฟ ค่าอาหาร และค่าวัตถุดิบอื่น ๆ ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทต่าง ๆ กลับผลักภาระต้นทุนส่วนเพิ่มไปยังลูกค้าได้ช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2565
"กำไรของบริษัทภาคบริการน่าจะถูกบีบหนักขึ้นไปอีก เนื่องจากราคาที่เรียกเก็บได้กลับเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าลง ขณะที่ต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น" ภัณฑารีกล่าวเสริม
อนึ่ง ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของอินเดียที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร (1 ต.ค.) ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือนที่ 56.5 ในเดือนก.ย.
ขณะเดียวกัน ดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นสุดท้ายของอินเดียอ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว โดยลดลงมาอยู่ที่ 58.3 ในเดือนก.ย. จาก 60.7 ในเดือนส.ค.