เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราต่ำที่สุดในรอบ 6 ไตรมาส ซึ่งทำให้รัฐบาลจีนต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายเดือนก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อหยุดยั้งการชะลอตัวดังกล่าว
นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดว่า ข้อมูลที่จะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ (18 ต.ค.) จะบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจจีนมีการขยายตัว 4.5% ในไตรมาส 3/2567 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งจะเป็นอัตราการขยายตัวต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2566 แต่ยังคงทำให้การขยายตัวในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 4.9% ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายประจำปีของรัฐบาลจีนที่ราว 5%
ตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจจีนซึ่งใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก ก่อนผู้กำหนดนโยบายเปิดเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาในช่วงปลายเดือนก.ย. ซึ่งรวมถึงการลดอัตราดอกเบี้ย การสนับสนุนตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้น โดยมาตรการเหล่านั้นทำให้ตลาดหุ้นจีนพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว และทำให้ธนาคารต่าง ๆ รวมถึง โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีน
อย่างไรก็ตาม หลังจากการแถลงข่าวหลายครั้งในเดือนนี้ ซึ่งผู้กำหนดนโยบายไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับแผนการใช้จ่ายใหม่ ๆ ทำให้นักลงทุนมีความกังวลเพิ่มขึ้นในขณะนี้ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนอาจไม่เพียงพอที่จะฟื้นฟูการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยนักลงทุนจับตาเหตุการณ์สำคัญถัดไปได้แก่ การแถลงข่าวของรัฐมนตรีกระทรวงการเคหะของจีนในวันนี้ (17 ต.ค.)
นอกจากนี้ บรรดานักลงทุนจับตาการประชุมของคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ในช่วงปลายเดือนต.ค.นี้หรือช่วงต้นเดือนพ.ย. เนื่องจากงบประมาณพิเศษหรือการออกพันธบัตรเพิ่มเติมจะต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมาธิการนี้
ฉาง ชู หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์เอเชียของบลูมเบิร์กกล่าวว่า ขณะที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัวรุนแรงขึ้นนั้น ก็สะท้อนถึงความจำเป็นที่ผู้กำหนดนโยบายต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ประกาศไว้ในช่วงใกล้สิ้นเดือนก.ย.
ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ของจีนจะเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจต่าง ๆ ของเดือนก.ย.และของไตรมาส 3 ในวันพรุ่งนี้ (18 ต.ค.) ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ตามเวลาจีน