องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) เปิดเผยในวันนี้ (17 ต.ค.) ว่า อัตราว่างงานในฉนวนกาซาทะยานขึ้นแตะที่เกือบ 80% นับตั้งแต่การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธฮามาสปะทุขึ้น ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจจนเกือบพังพินาศโดยสิ้นเชิง
ILO ระบุว่า ผลผลิตทางเศรษฐกิจของฉนวนกาซาหดตัวลง 85% นับตั้งแต่ที่ความขัดแย้งปะทุขึ้นเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว ส่งผลให้ประชากรทั้ง 2.3 ล้านคนต้องประสบกับความยากจน
ความขัดแย้งเป็นสาเหตุให้ "ตลาดแรงงานและเศรษฐกิจทั่วดินแดนที่ปาเลสไตน์ครอบครองพังทลายเป็นวงกว้างอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน" ILO ระบุ โดยอ้างถึงดินแดนกาซาและเวสต์แบงก์
โดยในเวสต์แบงก์นั้น อัตราการว่างงานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 34.9% ในช่วงเดือนต.ค. 2566 ถึงสิ้นเดือนก.ย. 2567 ขณะที่เศรษฐกิจหดตัวลง 21.7% เมื่อเทียบกับ 12 เดือนก่อน
ข้อมูลจาก ILO แสดงให้เห็นว่า ก่อนเกิดวิกฤตการณ์ความขัดแย้ง อัตราการว่างงานในกาซาและเขตเวสต์แบงก์อยู่ที่ 45.3% และ 14% ตามลำดับ
ILO ระบุว่า ชาวกาซาตกงานโดยสมบูรณ์ หรือรับงานนอกระบบและงานไม่ประจำ "ซึ่งเน้นไปที่การจัดหาสินค้าและบริการที่จำเป็นเป็นหลัก"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อิสราเอลเปิดฉากถล่มกาซาหลังถูกกลุ่มฮามาสบุกโจมตีในวันที่ 7 ต.ค. ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตราว 1,200 ราย และจับตัวประกันราว 250 ราย ขณะที่ปฏิบัติการตอบโต้ของอิสราเอลคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 42,000 ราย