ยอดขายบ้านมือสองในสหรัฐฯ ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 14 ปีในเดือนกันยายน เนื่องจากราคาบ้านยังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับผู้ที่ตั้งใจจะซื้อบ้านชะลอการซื้อออกไปก่อนด้วยความหวังว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อาจปรับตัวลง รวมทั้งไม่แน่ใจเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังจะมาถึง
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองลดลง 1.0% ในเดือนก.ย. สู่ระดับ 3.84 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2553 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ยอดขายจะไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนส.ค. ที่ระดับ 3.86 ล้านยูนิต
เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านร่วงลง 3.5% ในเดือนก.ย.
สต็อกบ้านในตลาดเพิ่มขึ้น 1.5% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.39 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2563 ขณะที่พุ่งขึ้นถึง 23.0% เมื่อเทียบรายปี
แม้สต็อกบ้านเพิ่มขึ้น แต่ราคาเฉลี่ยของบ้านยังคงสูงขึ้นเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อนหน้า สู่ระดับ 404,500 ดอลลาร์ในเดือนก.ย.
เมื่อพิจารณายอดขายบ้านและสต็อกบ้านในตลาด พบว่า ผู้ขายบ้านต้องใช้เวลา 4.3 เดือนจึงจะขายบ้านจนหมดสต็อก ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2563 และเพิ่มขึ้นจาก 3.4 เดือนในปีที่แล้ว