สถาบัน GfK เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ (25 ต.ค.) ว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในสหราชอาณาจักร (UK) ดิ่งลงต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. เนื่องจากประชาชนกังวลว่ารัฐบาลอาจขึ้นภาษี ก่อนถึงวันประกาศงบประมาณชุดแรกของรัฐบาลใหม่ในสัปดาห์หน้า
รายงานระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค UK ขยับลงมาอยู่ที่ -21 ในเดือนต.ค. จากระดับ -20 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงที่รัฐบาลพรรคอนุรักษนิยมชุดก่อนประกาศงบประมาณครั้งสุดท้ายในเดือนมี.ค. โดยตัวเลขนี้สอดคล้องกับที่นักเศรษฐศาสตร์ในโพลของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้
นีล เบลลามี ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค กล่าวว่า "แม้เงินเฟ้อทั่วไปจะเริ่มชะลอตัว แต่ประชาชนยังคงอยู่ในภาวะหดหู่ โดยเฉพาะในช่วงที่ใกล้ถึงวันประกาศงบประมาณ"
ที่ผ่านมานั้น ครัวเรือนชาว UK ยังคงแบกรับภาระค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะหลังราคาพลังงานทะยานขึ้นอย่างรุนแรงจากผลพวงของสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนก.พ. 2565
แต่จากตัวเลขทางการล่าสุดชี้ให้เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อลดลงอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับการชะลอตัวของการปรับขึ้นค่าแรง ส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) น่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ย.นี้ และอาจมีการปรับลดอีกครั้งในเดือนธ.ค.
"ผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนนี้สะท้อนให้เห็นภาพประชาชนที่กำลังลุ้นแบบใจจดใจจ่อว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาในวันที่ 30 ต.ค.นี้" เบลลามีกล่าว
นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ และราเชล รีฟส์ รัฐมนตรีคลัง ได้ออกมาเตือนว่าภาษีบางประเภทจะมีการปรับขึ้นในงบประมาณครั้งนี้ โดยสตาร์เมอร์ย้ำชัดว่า กลุ่มผู้มีกำลังทรัพย์มากที่สุดควรเป็นผู้แบกรับภาระภาษีที่จะเพิ่มขึ้นเป็นหลัก
ผลการสำรวจของ GfK ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มีการจัดทำมายาวนานที่สุดใน UK นั้น พบว่าจากดัชนีย่อย 5 รายการที่ใช้ชี้วัดนั้น มี 3 ดัชนีย่อยที่มีค่าลดลงในเดือนนี้
รายงานระบุว่า ดัชนีย่อยที่สะท้อนมุมมองของผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ -28 ในเดือนต.ค. จาก -27 ในเดือนก.ย.
อย่างไรก็ดี ดัชนีชี้วัดความรู้สึกของครัวเรือนต่อสถานะการเงินส่วนตัวกลับดีขึ้นเล็กน้อย โดยเพิ่มขึ้น 1 จุดมาอยู่ที่ -2 ในเดือนต.ค.
ขณะที่ดัชนีชี้วัดความเต็มใจของผู้บริโภคในการจับจ่ายสินค้าราคาแพงก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 4 จุด